ความลึกระดับกลางของมหาสุมทร (ตั้งแต่ 200 เมตรถึง 1,000 เมตร) เรียกว่า เขตสนธยา (mesopelagic zones) สัตว์ในแดนสนธยากินอินทรียวัตถุหลายพันล้านตัน เช่น แพลงตอนพืชที่ตายแล้วและขี้ปลา ซึ่งลอยลงมาจากพื้นผิวมหาสมุทร อนุภาคที่ลอยอยู่เรียกว่าหิมะในทะเล
ก่อนหน้านั้นมูลนิธิสืบนาคะเสถียรรายงานว่ามี งานวิจัยชิ้นล่าสุดเปิดเผยว่าภายในปี พ.ศ. 2623 มหาสมุทรทั่วโลกอาจเผชิญกับภาวะขาดออกซิเจนเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มีการคาดการณ์ว่าจะเป็นพื้นที่แรกซึ่งสูญเสียปริมาณออกซิเจนอย่างมีนัยสำคัญ เพราะจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พื้นที่ดังกล่าวคือแหล่งอาศัยสำคัญของปลาเศรษฐกิจหลากชนิดพันธุ์ ความสูญเสียนั้นอาจส่งผลกระทบเลวร้ายต่อเศรษฐกิจ การขาดแคลนอาหารทะเล และนิเวศทางทะเลที่ถูกทำลาย
ล่าสุด ตามรายงานของ theguardian ระบุว่าการศึกษาพบว่าสิ่งมีชีวิตในเขตสนธยาของมหาสมุทรจะเผชิญกับการลดลงอย่างมากและแม้กระทั่งการสูญพันธุ์ เนื่องจากทะเลที่อุ่นขึ้นและอาหารน้อยลง
น้ำอุ่นส่งผลให้ปริมาณอาหารที่จมลงสู่บริเวณดังกล่าวลดลง หมายความว่า 40% ของสิ่งมีชีวิตในน้ำช่วงค่ำอาจหายไปภายในสิ้นศตวรรษนี้ ตามการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature การกู้คืนอาจใช้เวลาหลายพันปี หัวหน้าทีมวิจัยกล่าวว่า ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตในแดนสนธยามีวิวัฒนาการในช่วงไม่กี่ล้านปีที่ผ่านมา เมื่อน้ำทะเลเย็นลง จะช่วยถนอมอาหารให้อยู่ได้นานขึ้น
หากเราไม่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างรวดเร็ว สิ่งนี้อาจนำไปสู่การหายไปหรือการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในแดนสนธยาจำนวนมากภายใน 150 ปี และผลกระทบจะขยายออกไปนับพันปีหลังจากนั้น มหาสมุทรที่อุ่นขึ้นยังลดการสะสมคาร์บอน
การศึกษาเสนออนาคตที่เป็นไปได้ ได้แก่ สถานการณ์คาร์บอนต่ำ ซึ่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวม 625 พันล้านตันตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นไป สถานการณ์ปานกลาง 2,500 พันล้านตัน และสถานการณ์สูง ซึ่งหากไปถึงสถานการณ์ปานกลางหรือสูง ก็เป็นข่าวร้ายสำหรับแดนสนธยา
มหาวิทยาลัย Exeter ประมาณการว่าในปี 2022 การปล่อยคาร์บอนไดออกไซต์ทั่วโลกทั้งหมดสูงถึง 40.6 พันล้านตัน มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกือบ 4 หมื่นล้านตันทุกปีตั้งแต่ปี 2010-2022
ข้อมูล : theguardian