นายประเสริฐศักดิ์ เชิงชวโน รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลกหันมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี (EV) กันมากขึ้น และก้าวสู่พลังงานสะอาดมากขึ้น
ขณะที่ประเทศไทยก็ยังคงเดินหน้าผลักดันในเรื่องของยานยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น โดยจะเห็นได้จากยอดขายยานยนต์ไฟฟ้าในไทยที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มจะพุ่งสูงขึ้นต่อไปอีก
อย่างไรก็ดี ไทยยังคงมีปัญหาเรื่องจุดชาร์จรถ EV ที่ยังมีน้อย ส่วนที่บ้านเรือนของประชาชนเองก็ยังมีการติดตั้งน้อยไม่เหมือนกับต่างประเทศที่บ้านจะมีการติดตั้งจุดชาร์จรถ EV มาก ซึ่งง่าย สะดวก รวดเร็ว ที่สำคัญการชาร์จรถ EV ช่วงเวลากลางคืนจะทำให้ประหยัดลงอย่างมาก
สำหรับความคืบหน้าในขณะนี้ในการผลักดันการใช้อีวีนั้น ได้มีการร่วมมือกันของผู้ประกอบการ 5 ราย เชื่อมโยงโครงข่ายสถานีชาร์จอีวี เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้อีวีสามารถดูหมุดสถานีชาร์จข้ามค่ายได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นได้มีการรวมตัวที่จะทำงานร่วมกันได้
โดยคาดว่าจะนำผู้ประกอบการทุกรายที่รวมตัวกันเข้ามาอยู่ในแพลตฟอร์มเดียวกันสามารถทำงานร่วมกันได้ เช่น การจ่ายเงินได้ในแพลตฟอร์มเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น โมเดลธนาคารที่สามารถกดเงิน โอนเงิน ผ่านตู้ต่างธนาคารได้ หรือการทำงานร่วมกันในมิติอื่นที่ง่ายต่อลูกค้ามากขึ้น
นายประเสริฐศักดิ์ กล่าวต่อไปอีกว่า กฟผ.ยังเตรียมยกระดับการจัดการใช้พลังงานของภาคประชาชนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และลดคาร์บอนอย่างเป็นรูปธรรมผ่านฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 โฉมใหม่ ที่แสดงค่าการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายนนี้
รวมถึงเดินหน้าเพิ่มพื้นที่สีเขียวอย่างต่อเนื่องผ่านโครงการปลูกป่าล้านไร่อย่างมีส่วนร่วม ทั้งป่าต้นน้ำ ป่าชุมชน และป่าชายเลน โดยในปี 2565 สามารถเพิ่มพื้นที่ปลูกป่ารวมกว่า 1.03 แสนไร่ ตั้งเป้าปลูกป่าในปี 2566 จำนวน 1 แสนไร่ โดยมีเป้าหมายปลูกป่าให้ครบ 1 ล้านไร่ในปี 2574