นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยระหว่างนำคณะผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมจาก 10 นิคมอุตสาหกรรม เข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการลงทุน (โรดโชว์) ในนิคมอุตสาหกรรมไทยที่เมืองนาโกย่า ว่า ได้เดินทางมาโรดโชว์นักลงทุนเมืองนาโกย่าซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพสูงและเป็นเมืองเศรษฐกิจอันดับ 3 ของญี่ปุ่น
ทั้งนี้ ได้มีการจัดกิจกรรมสำคัญคือ การจัดสัมมนาส่งเสริมการลงทุนในหัวข้อ “Manufacturing Game Changers! It’s Time for Thailand” ออกบูธของนิคมอุตสาหกรรมไทย โดยบรรยายหัวข้อ “An Update of Investments in Thailand's Industrial Estates” นำเสนอข้อมูลปัจจุบันของพื้นที่การลงทุนในประเทศไทย
โดย กนอ. ให้ความสำคัญกับกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย เอส-เคิร์ฟ และ นิว เอส - เคิร์ฟ เน้นชักจูงอุตสาหกรรมสำคัญของนาโกยาลงทุนไทย คือ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี (EV) กลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก เพื่อชักจูงให้มาลงทุนในประเทศไทย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่บริษัทญี่ปุ่นมีความเชี่ยวชาญ
นอกจากนี้ คณะของ กนอ. ยังมีโอกาสได้เดินทางไปเยี่ยมผู้ประกอบการรายใหม่ ในอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมเหล็ก อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ และรายปัจจุบันที่ประกอบกิจการในนิคมอุตสาหกรรมในประเทศไทย ในจังหวัดไอจิ 4 บริษัท เป็นบริษัทที่ประกอบกิจการในกลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์และโลหะ มีที่ตั้งโรงงานอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง โครงการ 2, โครงการ 3 และโครงการ 5 คาดว่าจะดึงดูดการลงทุนทริปนี้ 3,700 ล้านบาท
นายวีริศ กล่าวอีกว่า การโรดโชว์ครั้งนี้จะแสดงถึงศักยภาพความพร้อมรับการลงทุนของนิคมอุตสาหกรรมไทย โดยกนอ.ร่วมมือกับ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ นอกจากนี้ยังเชิญ 10 นิคมอุตสาหกรรมเข้าร่วมโรดโชว์ครั้งนี้ ประกอบด้วย อมตะซิตี้ชลบุรี อมตะซิตี้ระยอง ดับบลิวเอชเอฯ เอเชียสุวรรณภูมิ แพรกษาฯ โรจนะแหลมฉบัง เอส อ่างทอง เอเชีย คลีนฯ ชลบุรี เอ็กโกระยอง เกตเวย์ซิตี้ และอุบลราชธานี
ซึ่งการโรดโชว์ครั้งนี้เป็นทริปสุดท้ายที่มาญี่ปุ่นหลังโรดโชว์โตเกียว โอซาก้า และได้โรดโชว์ประเทศอื่นในเอเชียแล้ว คือ จีน ไต้หวัน เกาหลี โดยเร็วๆนี้จะโรดโชว์ประเทศสุดท้ายของเอเชียในปีงบประมาณ 2566 โดยอยู่ระหว่างพิจารณาประเทศปลายทางอีกครั้ง ส่วนโรดโชว์พื้นที่อื่น อาทิ สหรัฐอเมริกา กำลังให้ทีมพิจารณา ส่วนยุโรปยังไม่มีแผนแต่มีนักลงทุนยุโรปสนใจเข้าดูพื้นที่ต่อเนื่อง
"นักลงทุนญี่ปุ่น ยังคงเป็นอันดับ 1 ของการลงทุนในนิคมฯ มี1,951 ราย มูลค่าการลงทุนรวม 3.1 ล้านล้านบาท จากมูลค่าลงทุนทั้งหมด 12 ล้านล้านบาท ซึ่งกว่า 70% ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่อีอีซี"