การประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งสหประชาชาติครั้งที่ 28 หรือ COP28 มีกำหนดจะจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) โดยเมื่อเร็วๆนี้ “สุลต่าน อัล จาเบอร์” ประธาน COP28 ได้เปิดเผยแผนปฏิบัติการที่รอคอยมานานในการประชุมในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศฝรั่งเศส
ขณะที่ “อันโตนิโอ กูเตอร์เรส” หัวหน้าสหประชาชาติ เตือนว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในขณะนี้อยู่เหนือการควบคุมหลายคนหวังว่าจะมีการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ในการประชุมครั้งนี้
จนถึงตอนนี้เรารู้อะไรบ้างเกี่ยวกับ COP28
ประธาน COP28 วางแผนปฏิบัติการสำหรับการประชุมครั้งนี้
ในการประชุมรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ด้านสภาพอากาศในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศฝรั่งเศส สัปดาห์ที่ผ่านมา สุลต่าน อัล จาเบอร์ ได้แบ่งปันแผนปฏิบัติการสำหรับการประชุมสุดยอดด้านสภาพอากาศของสหประชาชาติ
นำโดยการรักษาเป้าหมายข้อตกลงปารีสที่เข้มงวดที่ 1.5 องศาเซลเซียส และครอบคลุมพื้นที่หลักทั้งหมดของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้ยังได้แบ่งสิ่งต่างๆ โดยแบ่งออกเป็น 4 เสาหลัก ได้แก่ การติดตามอย่างรวดเร็วของการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงาน การแก้ปัญหาการเงินด้านสภาพอากาศ การมุ่งเน้นไปที่ชีวิตและการดำรงชีวิตของผู้คน และการครอบคลุมอย่างเต็มที่ และได้เรียกร้องให้ประเทศต่างๆ เข้าร่วมการเจรจาอย่างตรงไปตรงมาที่ COP28 ในเดือนพฤศจิกายนนี้ และยังเน้นย้ำว่าแผนดังกล่าวจะรวมถึง การลดลงของเชื้อเพลิงฟอสซิล
คำว่า "ลดลง" ยังคงน่าผิดหวังสำหรับหลายประเทศ รวมทั้งกว่า 80 ประเทศที่หวังจะได้คำมั่นว่าจะเลิกใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลโดยสิ้นเชิงในการประชุม COP28 ยกตัวอย่างเช่น สหภาพยุโรป เรียกร้องให้รัฐบาลต่างๆ มุ่งมั่นที่จะใช้พลังงานหมุนเวียนมากขึ้น ปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และเลิกใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลอย่างถาวร
อัล จาเบอร์ ยังกล่าวอีกว่าเขาต้องการให้แน่ใจว่าเงิน 100,000 ล้านดอลลาร์ (89,000 ล้านยูโร) ต่อปีสำหรับการแก้ปัญหาด้านสภาพอากาศที่สัญญาไว้ โดยประเทศร่ำรวยนั้นได้รับการส่งมอบจริง ทั้งที่สิ่งนี้ควรจะส่งมอบในปี 2563 แต่ยังไม่เกิดขึ้นจริง
“การปฏิบัติตามข้อตกลงในการจัดตั้งกองทุนสำหรับการสูญเสียและความเสียหายที่ทำขึ้นในการประชุม COP27 เมื่อปีที่แล้วนั้น จำเป็นอย่างยิ่ง"
CEO บริษัทน้ำมันเจ้าใหญ่ของโลกนั่งตำแหน่งประธาน COP 28
ในเดือนมกราคม สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ยืนยันว่า สุลต่าน อัล จาเบอร์ ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานของ COP28 เขาเป็น CEO ของ Abu Dhabi National Oil Company (ADNOC) ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในประเทศและใหญ่เป็นอันดับที่ 12 ของโลก รวมถึงยังเป็นรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และทูตด้านสภาพอากาศ
การมาของเขาไม่ได้มาโดยไม่มีการโต้เถียง ผู้นำด้านสภาพอากาศและผู้รณรงค์ได้แสดงข้อกังวลหลายอย่าง โดยเฉพาะที่เรียกว่านี่อาจเป็นผลประโยชน์ทับซ้อนที่เห็นได้ชัด
“คุณจะไม่เชิญพ่อค้าอาวุธเป็นผู้นำการเจรจาสันติภาพ ทำไมจึงปล่อยให้ผู้บริหารน้ำมันเป็นผู้นำในการเจรจาเรื่องสภาพอากาศ” อลิซ แฮร์ริสัน หัวหน้าฝ่ายรณรงค์เชื้อเพลิงฟอสซิลของ Global Witness กล่าวในเวลานั้น
ADNOC ซึ่งเป็นบริษัทของรัฐที่นำโดย Al Jaber ได้ประกาศ แผนการขยายครั้งใหญ่ระยะเวลา 5 ปีมูลค่า 1.5 แสนล้านดอลลาร์ โดยจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเป็น 5 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในปี 2568 เพิ่มขึ้นจาก 4 ล้านบาร์เรลในปี 2563 และวางแผน ขยาย แหล่งน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดใน Upper Zakum
อย่างไรก็ตาม สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ทุ่มเงินจำนวนมากเพื่อเน้นย้ำถึงความเป็นสีเขียว
ประธานาธิบดีของซีเรียถูกเชิญเข้าร่วม COP28
UAE ได้เชิญประธานาธิบดีซีเรีย ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด เข้าร่วมการประชุมสุดยอดด้านสภาพอากาศของสหประชาชาติ โดยโพสต์จากสถานเอกอัครราชทูตในกรุงดามัสกัสระบุว่า ประธานาธิบดีได้รับคำเชิญจาก ชีค โมฮาเหม็ด บิน ซาเยด อัล นาห์ยาน ประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และผู้ปกครองอาบูดาบีให้เข้าร่วมการประชุม
หากประธานาธิบดีของซีเรียไปประชุมจะเป็นการประชุมสุดยอดระดับโลกครั้งแรกที่เขาเข้าร่วมนับตั้งแต่สงครามกลางเมืองในซีเรียเริ่มขึ้นในปี 2554 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 300,000 คน และทำให้ประชากรครึ่งหนึ่งต้องพลัดถิ่น
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การเข้าร่วมของอัสซาดอาจทำให้เกิดความตึงเครียดกับประเทศที่คว่ำบาตรซีเรีย คำเชิญดังกล่าวถูกตราหน้าว่าเป็นมุขตลก โดยนักรณรงค์ด้านสิทธิมนุษยชน แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล
ตัวแทนของ COP28 ได้กล่าวกับสื่อมวลชนว่าพวกเขามุ่งมั่นที่จะใช้กระบวนการในการประชุมสุดยอดก่อให้เกิดการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
สหภาพยุโรปกับการประชุม COP 28
ย้อนกลับไปในเดือนมีนาคมประเทศในสหภาพยุโรปตกลงที่จะผลักดันให้มีการเลิกใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลในการประชุมสภาพภูมิอากาศ
ฟรานซ์ ทิมเมอร์มันส์ หัวหน้าด้านสภาพอากาศของกลุ่ม ย้ำคำมั่นสัญญานี้ในเดือนกรกฎาคม โดยกล่าวว่าเขาหวังว่าจะผลักดันให้เลิกใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลก่อนปี 2050 ซึ่งสหภาพยุโรปก็กำลังมองหาพลังงานหมุนเวียนเช่นกัน โดยการเพิ่มการใช้พลังงานหมุนเวียนใหม่เป็น 3 เท่าต่อปีระหว่างนี้จนถึงปี 2030
นอกจากนี้ อัวร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปยังได้เข้าร่วมการเรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆ ตั้งเป้าหมายพลังงานหมุนเวียนทั่วโลก และได้รับการสนับสนุนจาก องค์การพลังงานหมุนเวียนระหว่างประเทศ International Renewable Energy Agency ด้วย
ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวว่า เป้าหมายเหล่านี้สามารถพัฒนาได้ทันเวลาสำหรับ COP28 ในเดือนพฤศจิกายนนี้
ข้อมูล