ปลุกความหวัง “ชาวสวนมะม่วง” เพิ่มรายได้ ขายคาร์บอนเครดิต

10 ส.ค. 2566 | 11:46 น.
อัปเดตล่าสุด :10 ส.ค. 2566 | 11:46 น.

"ระพีภัทร์" อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ลงพื้นที่ศรีสะเกษ ติดตามความก้าวหน้าโครงการคาร์บอนเครดิตแปลงมะม่วงเพื่อ จัดทำข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ย้อนหลัง 3 ปี หวังขายคาร์บอนเครดิต ลดโลกร้อน ปลุกความหวัง เพิ่มรายได้เกษตรกรไทย

วันที่ 10 สิงหาคม 2566 นายระพีภัทร์  จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร พร้อมด้วย ดร.พงศ์ไท ไทโยธิน รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร และคณะผู้บริหารกรมวิชาการเกษตร ลงพื้นที่ตรวจติดตามการดำเนินงานของศูนย์วิจัยพืชสวนศรีะเกษ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ และ ในโอกาสนี้ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ติดตามความก้าวหน้าโครงการคาร์บอนเครดิตแปลงมะม่วงจัดทำข้อมูล baseline การปล่อยก๊าซเรือนกระจกย้อนหลัง 3 ปี ในแปลงดำเนินงานตามกรอบ T-VER ของ อบก. เพื่อเข้าสู่กระบวนการขอรับรองคาร์บอนเครดิตต่อไป

ปลุกความหวัง “ชาวสวนมะม่วง” เพิ่มรายได้ ขายคาร์บอนเครดิต

การดำเนินงานคาร์บอนเครดิต กรมวิชาการเกษตร ได้จัดทำ MOU ร่วมกับ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) และ ได้เปิดตัวโครงการคาร์บอนเครดิต ในงาน "DOA Green Together" ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรกระบี่ ตำบลเขาคราม อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ เมื่อปลายเดือนเมษายน ที่ผ่านมา ซึ่ง กรมวิชาการเกษตรมีแนวทางลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกภาคเกษตร 2 แนวทาง ประกอบด้วย

1. การจัดทำต้นแบบการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในการผลิตพืช  โดยมีแนวทางการดำเนินงานในพืชเป้าหมายที่เป็นพืชเศรษฐกิจหลัก ได้แก่ อ้อย ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง ข้าวโพด ยางพารา และไม้ผล (ทุเรียน และมะม่วง) ซึ่งจะดำเนินการพัฒนาเป็นโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจ

ปลุกความหวัง “ชาวสวนมะม่วง” เพิ่มรายได้ ขายคาร์บอนเครดิต

2.การพัฒนากรมวิชาการเกษตรเพื่อเป็นหน่วยงานตรวจรับรองคาร์บอนเครดิตภาคเกษตร  โดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนาให้กรมวิชาการเกษตรสามารถเป็นหน่วยงานในการตรวจรับรองคาร์บอนเครดิตภาคป่าไม้ และการเกษตร ภายใต้หน่วยงานใหม่ คือกองวิจัยพัฒนาพืชเศรษฐกิจใหม่และการจัดการก๊าซเรือนกระจกสำหรับภาคเกษตร

ในการนี้ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ได้เข้าติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการคาร์บอนเครดิตในแปลงมะม่วง ซึ่งได้มีการดำเนินการจัดทำข้อมูล baseline การปล่อยก๊าซเรือนกระจกย้อนหลัง 3 ปี โดยมีค่าการปลดปล่อยเฉลี่ยประมาณ 0.30tCO2eq/ไร่/ปี ซึ่งหลังจากนี้จะมีการดำเนินการตามกรอบ T-VER ของ อบก. เพื่อเข้าสู่กระบวนการขอรับรองคาร์บอนเครดิตต่อไป

ปลุกความหวัง “ชาวสวนมะม่วง” เพิ่มรายได้ ขายคาร์บอนเครดิต

นอกจากนี้ ยังได้มีการสรุปความก้าวหน้าBaseline ของพืชที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าวข้างต้น บางพืชได้มีการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานเอกชนหรือสมาคมที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกัน พัฒนา National baseline ในพื้นที่แปลงเกษตรกรจากแหล่งผลิตสำคัญในการดำเนินงานด้านคาร์บอนเครดิตภาคเกษตร ถือเป็นครั้งแรกในจัดทำมาตรฐานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคเกษตร ที่นอกจากจะก่อให้เกิดรายได้จากการขายคาร์บอนแล้ว ยังเป็นการเพิ่มมูลค่าผลิตผลทางเกษตรของไทย จากกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อส่งแวดล้อม เพื่อรองรับข้อกีดกันทางการค้าที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตและ กรมวิชาการเกษตร ได้จัดทำคู่มือประชาชน เพื่อให้ผู้สนใจได้รับรู้แนวทาง หรือหลักการในการสร้างรายได้จากการผลิตพืชด้วย

ปลุกความหวัง “ชาวสวนมะม่วง” เพิ่มรายได้ ขายคาร์บอนเครดิต

ในวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 นี้กรมฯ มีการจัดงานนิทรรศการ “5 ทศวรรษแห่งการพัฒนาวิชาการเกษตรไทย และ การก้าวไปในทศวรรษที่ 6” ณ ศูนย์การค้า เอ็มควอเทียร์ ถ.สุขุมวิท กรุงเทพฯ ซึ่งนอกจากจะเป็นการสรุปผลงานเด่นที่ผ่านมา ทั้งในส่วนของ พันธุ์พืช เทคโนโลยีการผลิต นวัตกรรมใหม่ๆ ยังมีการนำเสนอผลงานจากการดำเนินงานคาร์บอนเครดิตในการผลิตพืช และคู่มือภาคประชาชน เพื่อให้ผู้สนใจได้รับรู้แนวทางหรือหลักการในการสร้างรายได้จากการผลิตพืช

ปลุกความหวัง “ชาวสวนมะม่วง” เพิ่มรายได้ ขายคาร์บอนเครดิต

โดยในงานดังกล่าวจะมีการเสวนาในหัวข้อ “ความมั่นคงทางอาหารและการเกษตรภายใต้ปรากฎการณ์เอลนีโญและโอกาสการค้าตลาดคาร์บอนเครดิตในการผลิตพืชของไทย”โดยมีผู้ร่วมเสวนา ได้แก่ นายปิติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย, ร้อยตำรวจเอก ดร.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย นักวิชาการอิสระ และ นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร

ปลุกความหวัง “ชาวสวนมะม่วง” เพิ่มรายได้ ขายคาร์บอนเครดิต

รวมถึงผู้แทนจาก องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางด้านนโยบาย และ ผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกลไกทางการเงินและเทคโนโลยี เช่น บ.เวฟ บีซีจี จำกัด ที่จะมาร่วมกันวิเคราะห์สถานการณ์ในปัจจุบันเพื่อหาทิศทางและโอกาสในอนาคตของทุกภาคส่วน ตั้งแต่ภาคการผลิตจนถึงตลาดปลายทาง

ปลุกความหวัง “ชาวสวนมะม่วง” เพิ่มรายได้ ขายคาร์บอนเครดิต

นอกจากนี้จะส่งต่อการเสวนาต่อเนื่องไปในงานประชุมวิชาการประจำปีของกรมวิชาการเกษตร ในช่วงปลายเดือนกันยายน 2566 สำหรับเติมเต็มประเด็นต่างๆ ให้ครอบคลุม เพื่อที่กรมวิชาการเกษตรสามารถกำหนดทิศทางในการขับเคลื่อนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในการผลิตพืช อย่างเต็มประสิทธิภาพและตอบสนองความต้องการจนถึงเกษตรกรรายย่อยต่อไป