จบไปแล้วสำหรับการ ประชุม COP28 ที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นับเป็นครั้งแรกที่การประชุมสุดยอดด้านสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติได้สรุปด้วยการเรียกร้องให้แก้ไขสาเหตุหลักของ "วิกฤตสภาพภูมิอากาศ" โดย ประธาน COP28 สุลต่าน อัลจาเบอร์ เรียกการประชุมว่า "ประวัติศาสตร์" ด้วยเหตุผลที่ว่าเมื่อพิจารณาถึงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญซึ่งพบว่าโลกมีอุณหภูมิร้อนขึ้นถึง 1.2 องศาเซลเซียส และภัยพิบัติทางสภาพอากาศที่เพิ่มสูงขึ้น
แต่หากเจาะลึกไปยัง ข้อตกลงในการประชุม COP28 ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพภูมิอากาศมีความเห็นแตกแยกกันอย่างมากว่าข้อตกลงนี้จะพาไปในทิศทางใด และความรวดเร็วเพียงใด ซึ่งมีคำตอบบางส่วนที่มีข้อมูลมากที่สุดต่อประเด็นสำคัญ 5 ประการ
ข้อตกลง COP28 พูดถึง "เชื้อเพลิงฟอสซิล"อย่างไร
มีเสียงวิพากวิจาร์จากนักรณรงค์ว่า ดูเหมือนจะไปไม่ถึงไหน แต่ COP28 ก็ไปถึงจุดหมายปลายทางที่ตั้งใจไว้ นั่นคือการตัดสินใจทางกฎหมายชุดหนึ่ง ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากทุกฝ่ายภายใต้ กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC) ไม่ว่าจะเป็น กองทุนการสูญเสียและความเสียหาย (Loss and damage) ที่มีการตกลงกันตั้งแต่ต้นของการประชุมสุดยอดสภาพอากาศครั้งนี้ ทำให้ถูกมองว่าเหตุการณ์นี้ได้ครอบงำการหารือเกี่ยวกับเชื้อเพลิงฟอสซิล
โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการมุ่งเน้นไปที่วิธี การทบทวนสถานการณ์และการดำเนินงานระดับโลก (Global Stocktake) ที่จะอธิบายอนาคตของเชื้อเพลิงฟอสซิลเพื่อตอบสนองต่อ ข้อตกลงปารีส (Paris Agreement) ซึ่งเป็นข้อตกลงประวัติศาสตร์ที่แท้จริงที่เกิดขึ้นในปี 2015 เพื่อจำกัดอุณหภูมิโลกให้อยู่ที่ 1.5 องศาเซลเซียส และกำหนดวิธีที่ประเทศต่างๆ จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าวซึ่งปัจจุบันยังห่างไกลจากความเป็นจริงมาก
ผู้เชี่ยวชาญการประชุม COP อ้างอิงโดย สำนักข่าว euronews ระบุว่า ข้อตกลงกันในดูไบตระหนักถึงความจำเป็นของการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในเชิงลึก รวดเร็ว และยั่งยืน เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติที่ 1.5 องศาเซลเซียส และเรียกร้องให้ภาคีต่างๆ มีส่วนร่วมระดับโลก โดยคำนึงถึงความตกลงปารีสและสถานการณ์ เส้นทาง และแนวทางของประเทศที่แตกต่างกัน
เชื้อเพลิงฟอสซิลนั้นมีการเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ เปลี่ยนผ่านเพื่อออกจากเชื้อเพลิงฟอสซิลในระบบพลังงาน ในลักษณะที่ยุติธรรม เป็นระเบียบ และเท่าเทียม โดยเร่งดำเนินการในทศวรรษที่สำคัญนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเป็นศูนย์ภายในปี 2050 เพื่อให้สอดคล้องกับวิทยาศาสตร์
ข้อตกลง COP28 มีความหมายอย่างไรต่อเชื้อเพลิงฟอสซิล
ในการประชุม COP26 ที่กลาสโกว์ เมื่อปี 2021เป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนไปยังอุตสาหกรรมและนักลงทุนว่า เวลาสำหรับน้ำมันและก๊าซกำลังจะหมดลง เช่นเดียวกับถ่านหิน
นักรณรงค์ชี้ว่า ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ เช่น ซาอุดีอาระเบีย ต่อสู้เพื่อกำจัดตัวเลือกการเลิกใช้ที่ปรากฏในร่างข้อความก่อนหน้านี้ ในขณะที่ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ต่อต้านการยุติมาตรการที่อาจมีการร้องขอโดยไม่ได้รับการสนับสนุนทางการเงินที่เพียงพอในการเปลี่ยนผ่านจากเชื้อเพลิงฟอสซิล
"สถาบันทางการเงินและนักลงทุนไม่ควรถูกเข้าใจผิด" Mark Campanale ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการของ Carbon Tracker กล่าว โดยการลงทุนหลายร้อยพันล้านในการขยายเชื้อเพลิงฟอสซิลกำลังมีความเสี่ยงมากขึ้น ขณะที่นักรณรงค์ ยังชี้ให้เห็นถึงอุตสาหกรรม เช่น เทคโนโลยีการดักจับและกักเก็บคาร์บอน (CCS) ที่ไม่ได้รับการพิสูจน์
พลังงานหมุนเวียน ในการประชุม COP28
การทบทวนสถานการณ์และการดำเนินงานระดับโลก (Global Stocktake) กำหนดให้เพิ่มกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียน 3 เท่าทั่วโลก และเพิ่มอัตราการปรับปรุงประสิทธิภาพพลังงานโดยเฉลี่ยทั่วโลกเป็นสองเท่าภายในปี 2030
ถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ตามที่ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานระบุว่า เป็นครั้งแรกที่โลกตระหนักถึงความทะเยอทะยานที่จำเป็นในทศวรรษนี้ เพื่อสร้างระบบพลังงานสะอาดใหม่ โดยพลังงานหมุนเวียนจะต้องอยู่ในอันดับต้นๆ ของแผนพลังงานและสภาพภูมิอากาศ เพราะสิ่งเหล่านี้ถือเป็นการดำเนินการครั้งใหญ่ที่สุดที่จะสามารถช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลอย่างรวดเร็วในทศวรรษนี้
COP28 ทำอะไรเพื่อการเงินเพื่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
การดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศที่สำคัญ คือความจำเป็นในการจัดหาเงินทุนอย่างเหมาะสมเพื่อช่วยให้ประเทศกำลังพัฒนาไปสู่การเปลี่ยนแปลง เเละช่วยให้ประเทศที่มีความเปราะบางสามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมทั้งช่วยให้ฟื้นตัวเมื่อถูกโจมตีจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างร้ายแรง
แต่ก็ดูเหมือนว่า "การเงินเพื่อการปรับตัว" ยังมีช่องว่างที่ชัดเจนที่สุดระหว่างสิ่งที่จำเป็นและการส่งมอบเป้าหมายระดับโลกด้าน การจัดทำเป้าหมายระดับโลกด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Global Goal on Adaptation: GGA) ก่อตั้งขึ้นภายใต้ข้อตกลงปารีส ซึ่งขณะนี้ COP28 ได้ตกลงกันเพื่อนำไปปฏิบัติ แต่ก็ถูกวิจารณ์เกี่ยวกับภาษาที่ใช้ในร่างข้อตกลง
โดยร่างข้อความ ร้องขอให้ฝ่ายประเทศที่พัฒนาแล้วจัดหาเงินทุนแก่ประเทศกำลังพัฒนา ฉบับสุดท้ายระบุว่า การสนับสนุนระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่องและดีขึ้นสำหรับประเทศกำลังพัฒนาเป็นความจำเป็นเร่งด่วน
แต่ผู้เชี่ยวชาญบางคนก็พบข้อดีว่า แม้ฝ่ายต่างๆ จะไม่บรรลุเป้าหมายระดับโลกด้านกรอบการปรับตัวที่แข็งแกร่งตามที่ประเทศกลุ่มเปราะบางต้องการ แต่ตอนนี้ก็มีหนทางที่จะปรับปรุงการดำเนินการด้านการปรับตัว ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของความพยายามระดับโลกที่มีการประสานงานอย่างเป็นทางการเพื่อการปรับตัวและการฟื้นฟู
เมื่อสรุปความก้าวหน้าจากการประชุม COP28 ประธานการประชุมได้รวมการระดมทุนมากกว่า 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ในข้อผูกพันทางการเงินใหม่
COP28 มีความหมายต่อการประชุม COP ในอนาคตอย่างไร
ปีที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ ผู้คนทั่วโลกต่างมองหาการแก้ปัญหาที่แท้จริงมากขึ้นเรื่อยๆ และหลายคนยังกังขาเกี่ยวกับความสามารถของการประชุมสุดยอดสหประชาชาติในการดำเนินการดังกล่าว
ดังที่ทราบกันดีว่ากระบวนการพหุภาคีของกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติ (UNFCCC) ซึ่งหมายความว่าทุกคนต้องเห็นพ้องต้องกัน เป็นทั้งจุดแข็งและจุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุด
นักวิจารณ์ระบุว่า บางคนอาจมีความคาดหวังต่อการประชุมครั้งนี้สูงเกินไป แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นอาจไม่เคยได้ยินมาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การประชุม COP ในรัฐน้ำมัน (Petro-State) นั่นแสดงให้เห็นว่าแม้แต่ผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซก็เห็นว่าทุกคนกำลังมุ่งหน้าไปสู่โลกที่ปราศจากฟอสซิล
ขณะที่นักวิจารณ์ที่มีชื่อเสียงจำนวนมากต่างยินดีกับความก้าวหน้าที่เกิดขึ้นในการประชุม COP28 แต่ ศูนย์กฎหมายสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ (CIEL) ระบุว่าการประชุมดังกล่าวเป็น ความล้มเหลวที่เกิดจากเชื้อเพลิงฟอสซิลและต้องการ การประชุมทางเลือกเพื่อจัดการกับการลดลงของเชื้อเพลิงฟอสซิลโดยปราศจากอิทธิพลของผู้ที่ได้รับประโยชน์จากเชื้อเพลิงฟอสซิล
ที่มาข้อมูล