เกือบครึ่งหนึ่งของบริษัททั่วโลกลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในการเดินทางเพื่อธุรกิจลงอย่างน้อย 50% ระหว่างปี 2562-2565 จากบทวิเคราะห์ที่เผยแพร่ล่าสุด 18 ธันวาคม 2566 พบว่า เนื่องจากการเดินทางด้วยการบินขององค์กรกลับมาในอัตราที่ช้ากว่ามากนับตั้งแต่เกิดการระบาดโควิด
แม้ว่าทั่วโลกจะฟื้นตัว แต่การเดินทางเพื่อธุรกิจกลับสู่ระดับปี 2562 ได้ช้า โดยองค์กร ซึ่งก็รวมถึงลูกค้าจำนวนมากหันมาใช้การประชุมทางวิดีโอหรือการเดินทางด้วยรถไฟแทนที่จะเดินทางด้วยการบิน
การวิเคราะห์ Travel Smart Emissions Tracker สรุปได้ว่า บริษัท 217 แห่ง มี 104 แห่งลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากการเดินทางทางอากาศ อย่างน้อย 50% ระหว่างปี 2562-2565 ในบรรดาบริษัทที่ลดการบินลงมากที่สุด หรือมากกว่า 75% ได้แก่
SAP ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี (-86%) บริษัทยา ไฟเซอร์ (-78%) และกลุ่มที่ปรึกษา PwC (-76%) การวิเคราะห์นี้แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนแปลงไปสู่การบินที่น้อยลง เเละเปลี่ยนมาเดินทางด้วยรถไฟมากขึ้น รวมทั้งใช้การประชุมเสมือนจริงที่เพิ่มขึ้นด้วย
หนทางข้างหน้า คือ การทำงานร่วมกันด้วยการประชุมออนไลน์มากขึ้น เดินทางโดยรถไฟมากขึ้น และเดินทางด้วยการบินน้อยลง Denise Auclair ผู้จัดการแคมเปญ Travel Smart กล่าวในแถลงการณ์
การวิเคราะห์ดังกล่าวยังแสดงให้เห็นว่า ธุรกิจ 21 แห่งมีการบินเกินระดับก่อนปี 2562 โดยมีคำแนะนำว่าบริษัทเหล่านี้ควรยกระดับความทะเยอทะยานด้านสภาพภูมิอากาศและเร่งแผนเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในการเดินทางเพื่อธุรกิจ หากไม่เป็นไปตามความคาดหวังของ ผู้บริโภค นักลงทุน และพนักงาน ชื่อเสียงของธุรกิจก็ตกอยู่ในความเสี่ยงด้วยเช่นกัน
ยกตัวอย่าง 3 อันดับ แรก คือ L3Harris Technologies (LHX.N) บริษัทเทคโนโลยีสัญชาติอเมริกันด้านการป้องกันและผู้ให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศ Boston Scientific (BSX.N) Corporation เป็นบริษัทวิศวกรรมชีวการแพทย์/เทคโนโลยีชีวภาพและผู้ผลิตอุปกรณ์การแพทย์ และ Marriott International (MAR.O) กลุ่มบริษัทอเมริกันที่บริหาร ลงทุน และเป็นเจ้าของธุรกิจที่พักอาศัยรวมถึง โรงแรม ที่พักอาศัย ได้เพิ่มการปล่อยก๊าซคาร์บอนมากกว่า 69% เมื่อเทียบกับปี 2019
การวิเคราะห์ของ Travel Smart ระบุว่า หากยังคงรักษาระดับธุรกิจไว้ได้ในปี 2565 อยู่ที่ 50% ของปี 2562 จะสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้มากกว่า 1.8 ล้านตัน (เช็ครายชื่อบริษัท 2023 Emissions Tracker)
รัฐบาลทั่วโลกกำลังทบทวนแผนการจัดการสภาพภูมิอากาศในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า และกำลังให้บริษัทต่างๆ มีความรับผิดชอบมากขึ้นในการบรรลุเป้าหมายเหล่านั้น ตัวอย่างเช่น เนเธอร์แลนด์ เริ่มต้นในการกำหนดเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางเพื่อธุรกิจ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2567 ธุรกิจในเนเธอร์แลนด์จะเริ่มรายงานต่อรัฐบาลเกี่ยวกับความคืบหน้าในการลดการปล่อยก๊าซจากการเดินทางภายในประเทศลง 50% ภายในปี 2573 จากระดับปี 2559