การลากอวนใต้พื้นทะเล ซึ่งเป็นการลากอวนขนาดใหญ่ไปตามก้นทะเลเพื่อจับปลา จะรบกวนคาร์บอนจากพื้นทะเล เวลานี้เป็นครั้งแรกที่นักวิจัยได้คำนวณจำนวนอวนลากที่ปล่อยออกสู่ชั้นบรรยากาศ ก็คือก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ทำให้โลกร้อน ถึง 370 ล้านตันต่อปี ซึ่งเป็นปริมาณที่ใหญ่เกินกว่าจะเพิกเฉยได้
ตลอดระยะเวลาการศึกษาระหว่างปี 1996-2020 มีการประเมินว่า คาร์บอนไดออกไซด์ทั้งหมดที่ปล่อยออกมาจากการลากอวนขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศอยู่ที่ 8.5-9.2 พันล้านตัน นักวิทยาศาสตร์อธิบายว่า การลากอวนลากเป็นเหมือนการตัดไม้ทำลายป่าในทะเลซึ่งก่อให้เกิดอันตรายที่ไม่อาจแก้ไขต่อสภาพภูมิอากาศ สังคม และสัตว์ป่าได้
ขณะที่ทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพอากาศและมหาสมุทรระดับโลก พบว่า 55-60% ของคาร์บอนไดออกไซด์ในน้ำที่ปล่อยออกมาจากใต้พื้นทะเลโดยการลากอวนจะกลับสู่ชั้นบรรยากาศ ภายใน 9 ปี
พื้นที่ที่มีการลากอวนลาก ในทะเลจีนตะวันออก ทะเลบอลติก ทะเลเหนือ และทะเลกรีนแลนด์ มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุด การศึกษาพบว่าก๊าซคาร์บอนที่ปล่อยออกมาจากพื้นทะเลยังทำให้เกิดกรดในมหาสมุทร ส่งผลให้ความสามารถในการดูดซับคาร์บอนของมหาสมุทรลดลง
เรือลากอวนมีมากถึง 10,747 ลำ ซึ่งบางลำอาจมีขนาดใหญ่ ได้ทำลายสิ่งมีชีวิตในทะเลและแหล่งที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล ซึ่งการลากอวนใต้พื้นทะเลปล่อยก๊าซคาร์บอนออกมาด้วย ไม่อย่างนั้นก๊าซเหล่านี้จะถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยใต้พื้นมหาสมุทรเป็นเวลานับพันปี ตะกอนที่พวยพุ่งจากการลากอวนลากเชิงพาณิชย์ สามารถมองเห็นได้จากอวกาศ ไม่เหมือนกับไอน้ำที่เครื่องบินทิ้งไว้บนท้องฟ้า
การศึกษานี้อาศัยฐานข้อมูลการติดตามเรือที่ประมวลผลโดย Global Fishing Watch ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีการลากอวนที่ไหนบ้างในปี 1996-2020 โดยได้เพิ่มข้อมูลเกี่ยวกับคาร์บอนพื้นทะเล จากนั้นใช้แบบจำลองวัฏจักรคาร์บอนในมหาสมุทรที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล 3 รูปแบบ โดยคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อคำนวณปริมาณคาร์บอนที่ปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศ
งานวิจัยนี้ยังต่อยอดจากผลงานก่อนหน้านี้ของสมาชิกในทีมบางคน ซึ่งตีพิมพ์ในปี 2021 ที่แสดงให้เห็นว่าการลากอวนลากใต้พื้นทะเลปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงสู่มหาสมุทรมากเท่ากับอุตสาหกรรมการบินทั้งหมดทุกปี
การศึกษาใหม่ซึ่งตีพิมพ์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (18 ม.ค.67) พบว่าปริมาณที่ปล่อยสู่อากาศอาจเพิ่มการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงของกองเรือประมงขนาด 4 ล้านลำทั่วโลกเป็น 2 เท่าต่อปี
ที่มา