นายยอด ชินสุภัคกุล CEO แห่ง LINE MAN Wongnai เปิดเผยว่า ไลน์แมนและวงในเป็นพันธมิตรที่ส่งเสริมธุรกิจกันมาตั้งแต่เริ่มแรก ซึ่งการควบรวมเป็นหนึ่งเดียวในครั้งนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับอีโคซิสเต็ม Online-to-offline ที่สมบูรณ์ที่สุดสำหรับทั้งผู้ใช้และร้านอาหาร สามารถสร้างคุณค่าให้กับทุกฝ่ายในธุรกิจและตอบสนองต่อสภาพตลาดธุรกิจอาหารที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อีกทั้งพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงจากเดิมมากโดยเฉพาะช่วงหลัง โควิด-19 การเชื่อมต่อ ไลน์แมน กับ วงใน เข้าด้วยกันจึงเกิดแพลตฟอร์มด้านอาหารครบวงจรที่ครอบคลุมทั้งผู้ใช้ ร้านอาหาร และบริการส่งอาหาร
ทั้งนี้แผนธุรกิจ 3 ปีของ ไลน์แมนวงใน ประกอบด้วย ใน 1 ปี โฟกัสการทำงานร่วมกันเพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่ทุกฝ่ายในธุรกิจ โดยเฉพาะด้านฟู้ดเดลิเวอรี่ ขยายพื้นที่ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรีไปสู่หัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ สำหรับพันธมิตรร้านอาหารจะได้เห็นฟีเจอร์ O2O ใหม่ๆ และใน 3 ปี ตั้งเป้าสู่แพลตฟอร์มด้านอาหารอันดับ 1 ของประเทศไทย ด้วยการสร้างอีโคซิสเต็มด้านอาหารที่สมบูรณ์ที่สุด ซึ่งจะเกิดได้จากความเข้าใจผู้บริโภคคนไทย และผนวกเอาความแข็งแกร่งของแพลตฟอร์ม ไลน์ , ไลน์แมน และ วงใน เข้าด้วยกัน
“LINE MAN Wongnai เป็นบริษัทที่ก่อตั้งและบริหารโดยคนไทย ที่เข้าใจพฤติกรรมของคนไทย ซึ่งโจทย์ใหญ่คือการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของธุรกิจอาหารในประเทศด้วยอีโคซิสเต็ม Online-to-offline ที่ผนวกเอาความแข็งแกร่งของ 3 แพลตฟอร์ม ได้แก่ ไลน์ ที่เข้าถึงผู้ใช้กว่า 47 ล้านคน ไลน์แมน ที่มีพาร์ทเนอร์ร้านอาหารหลากหลายมากที่สุดกว่า 200,000 ร้าน และร้านอาหารพันธมิตรวงในกว่า 430,000 ร้านทั่วประเทศมาการควบรวมกิจการครั้งนี้จะสร้างการเติบโตให้กับทุกฝ่ายในธุรกิจอย่างแน่นอน”
อย่างไรก็ตามหลังจากประกาศควบรวมกิจการ ทีมงาน ไลน์แมน และ วงใน ก็ร่วมมือกันพัฒนาบริการทันที สิ่งที่เห็นผลแล้วในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาได้เปิดให้บริการในจังหวัดใหม่ ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา, เชียงใหม่, ภูเก็ต, นครราชสีมาและสงขลา โดยตั้งเป้าขยายไปยังเมืองหลักและเมืองรองรวม 20 จังหวัดทั่วประเทศภายในสิ้นปี