นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือดีอีเอส กล่าวกับ”ฐานเศรษฐกิจ”ว่าขณะนี้ได้สั่งการให้ทบทวนปัญหาดาวเทียมไทยคม ที่สัญญาสัมปทานสิ้นสุดลงในวันที่ 10 กันยายน 2564 โดยที่ผ่านมาการดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวความล่าช้า เพราะเป็นเรื่องที่มีความสลับซับซ้อนหลายประการ ทั้งติดปัญหาข้อกฎหมายต่างๆ ปัญหาการฟ้องร้อง ซึ่งอยู่ในกระบวนการพิจารณาของอนุญาโตตุลาการ อีกทั้งยังมีเรื่องที่ต้องทบทวนหลายด้าน ทั้งเรื่องการถือครองหุ้นของบริษัทบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ของบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ที่ปัจจุบันถือหุ้นอยู่ 41% ทั้งที่ตามข้อกฎหมายกำหนดไว้ต้องถือหุ้น 51% ซึ่งหากอินทัช ถือหุ้นในไทยคม 51% ก็ติดปัญหาเรื่องความมั่นคง ที่กิจการดาวเทียมไทยถูกครอบงำโดยต่างชาติ เพราะผู้ถือหุ้นของอินทัช คือ กลุ่มเทมาเสกจากสิงคโปร์
“ยอมรับว่าการแก้ปัญหาดาวเทียมไทยคมอาจมีความล่าช้า ซึ่งหลังจากที่ตนเข้ามารับตำแหน่งได้สั่งการให้เร่งทบทวนปัญหาดังกล่าว เพราะดาวเทียมถือเป็นเรื่องของความมั่นคงของประเทศ ซึ่งต้องเรียกดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 10 ก.ย.นี้ ที่ทรัพย์สินในโครงการไทยคมทั้งหมดต้องส่งมอบให้กับกระทรวงฯ ซึ่งเป็นเจ้าของสัมปทานดาวเทียมไทยคม