นายอนันต์ แก้วร่วมวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์ก่อนเกษียณอายุวันที่ 31 ธ.ค. ว่า บริษัทฯไม่ได้คาดหวัง กสทช.(สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรคมนาคาแห่งชาติ) เปิดประมูลวงโคจรดาวเทียม เนื่องจากบริษัทฯไม่สามารถกำหนดกฎกติกาได้ เพราะเป็นสิ่งที่นอกเหนือการควบคุมปัจจุบัน ไทยคม มีเงินสดในมือเกือบสองพันล้านบาท ไม่มีหนี้สิน ตราบใดบริษัทฯมีตังค์รอดแน่นนอน กิจการอย่างน้อยมีลูกค้าให้บริการได้ไม่ให้มีห้องว่างรอด ดาวเทียมมีระยะเวลา โดยหลักรอดอยู่แล้ว
" บริษัทฯไม่ได้ยึดติด เพราะ ไทยคม ทำธุรกิจต่างประเทศขอวงโคจร หรือ ร่วมเป็นพันธมิตรกับต่างประเทศได้ เพราะที่ผ่านมาให้บริการในประเทศอินเดีย ออสเตรลีย และ ญี่ปุ่น ปัจจุบัน บริษัทฯได้เปลี่ยนจากแซทเทิลไลท์ ขยายต่อยอด space air ground (เก็บข้อมูลโลกจากอวกาศ การเก็บข้อมูลท้องฟ้าธรรมดามาสู่โลก การที่อุปกรณ์ภาคพื้นดินรับสัญญาณมา) บนท้องฟ้าไม่ได้จำกัดให้บริการดาวเทียมโทรทัศน์ และ อินเตอร์เน็ต จากนี้สามารถพัฒนาต่อยอดทำ CCTV กล้องวงจรปิดบนท้องฟ้า ต่อเชื่อมอุปกรณ์ IOT จะเห็นบริษัทฯใหม่ๆเริ่มเกิดบริษัทดาต้าโซลูชั่น”
นอกจากนี้ นายอนันต์ ยังให้ความเห็นกับคณะกรรมการ กสทช.ชุดใหม่ว่าอยากให้มองว่าอย่าเป็นแค่กำกับมองตัวเองเป็นผู้พัฒนาด้วย การกำกับง่าย การพัฒนาสำคัญกว่าหรือไม่ การพัฒนา อาจกระทบหลายคนคำว่า USO (Universal Service Obligation) ไม่จำเป็นต้องเอาจานติดให้หมู่บ้านหลังเขา วันนี้ USO ต้องมองใหม่ไหมให้ประชาชนเข้าถึงองค์ความรู้เท่าเทียมกัน ยกตัวอย่างเช่น การประมูลในอนาคตได้เงินมาทำอะไร ตามกฎหมายส่งกระทรวงการคลัง การประมูลไม่ได้กำหนดให้ได้เงินสูงสุด การได้เงินสูงสุดเป็นตัววัดเป็นความสำเร็จ ของค้าขายประมูลแพง ของจะแพงขึ้นหรือไม่ กสทช.ต้องมองเรื่องของพัฒนาให้อุตสาหกรรมมีการเจริญเติบโต ผู้ประกอบการโทรคมนาคมก็จะดีขึ้นด้วย ต้องบริหารจัดการให้ดี ต้องสมดุลย์ รายใหญ่ และ รายเล็ก
ขณะที่ นายปฐมภพ สุวรรณศิริ ว่าที่ ประธานเจ้าหน้ที่บริหาร บมจ.ไทยคม เปิดเผยว่า ก่อน ซีอีโอ จะเกษียณอายุราชการ ปีสุดท้ายได้เตรียมการส่งไม้ต่อได้ดีมากบริษัทฯไทยคมทางานแบบมืออาชีพ เตรียมการถ่ายโอนธุรกิจมีขบวนการยาวนานกว่าหนึ่งปีหลังจากเพิ่งประกาศให้ผมมารับตำแหน่ง 6 เดือนที่แล้วในช่วงเวลาเตรียมพร้อมให้รับไม้ราบรื่นที่สุด
“ รู้สึกดีมีการเตรียมการยาวนาน สิ่งที่ คุณอนันต์ วางรากฐานเป็นช่วงรอยต่อสำคัญบริษัท เราสามารถให้บริการได้และโอเปอเรตได้หลังสัมปทาน และ ระยะยาวเป็นมากกว่าแค่ดาวเทียม” นายปฐมภพ กล่าว
ไทยคม มีผลกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 3/2564 เป็นจำนวน 146 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากผลกำไรสุทธิในไตรมาส 3/2563 จำนวน 77 ล้านบาท และผลขาดทุนสุทธิ จำนวน 41 ล้านบาท ไตรมาสที่ 2/2564.