นายชานนท์ จิรายุกุล ประธานกรรมการอาวุโสฝ่ายบริหาร บริษัทออปโป้ ประเทศ ไทย จำกัด เปิดเผยว่า ปีที่ผ่านมาพบเทรนด์การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลก ตามรายงานจาก Counterpoint คาดการณ์ว่า การส่งออกสมาร์ทโฟนจอพับทั่วโลกจะสูงขึ้นถึง 55 ล้านเครื่องภายในปี 2568 หรือคิดเป็น 4 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2565 ซึ่งเพิ่มความเข้มข้น ในการแข่งขันระหว่างแบรนด์ผู้ผลิตมากยิ่ง ขึ้น นำไปสู่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเพื่อเอาชนะใจกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียม ในขณะเดียวกันคาดว่าส่วนแบ่งของตลาดสมาร์ทโฟนจอพับจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า โดยจะเพิ่มขึ้นจาก 7% เป็น 16% ภายในปี 2568
ออปโป้ยังถือเป็นหนึ่งในผู้เล่นหลักในตลาดสมาร์ทโฟนจอพับระดับแฟลกชิป ทั้งตลาดไทยและตลาดโลก ด้วยความตั้งใจที่จะเป็นแบรนด์ที่มอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ใช้งานทั่วโลก ซึ่งรวมถึงนวัตกรรม เทคโนโลยี การบริการ และการสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต เพื่อมอบประสบการณ์ที่มีความหมายและไม่เหมือนใครให้แก่ผู้บริโภค ตามแนวทาง Inspiration Ahead ของแบรนด์ ด้วยแนวคิดนี้ทำให้เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ออปโป้ได้สร้างกระแสฮือฮาให้กับตลาด ด้วยการเปิดตัวสมาร์ทโฟนจอพับ OPPO Find N2 Flip ที่มายกระดับสมาร์ทโฟนจอพับจนกลายเป็นหนึ่งในแก็ดเจ็ตในฝันของ ผู้บริโภคทั่วโลก นอกจากดีไซน์ที่สวยงามน่าใช้แล้ว ประสิทธิภาพภายในยังได้รับการพัฒนาเพื่อแก้ปัญหาของผู้ใช้สมาร์ทโฟนจอพับ ทั้งหน้าจอด้านนอกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตลาด ณ เวลานั้น รอยพับที่น้อยที่สุด พร้อมกล้องที่ให้ภาพ และวิดีโอที่คมชัด รวมถึงแบตเตอรี่ใหญ่ที่สุดในบรรดาสมาร์ทโฟนจอพับรุ่นอื่นๆ
นายชานนท์ กล่าวต่อไปอีกว่าปีนี้เป็นปีที่ 15 ที่ออปโป้ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย จึงประกาศเดินหน้ากลยุทธ์นวัตกรรมจอพับระดับแฟลกชิปอย่างเต็มกำลัง ด้วยการเปิดตัว OPPO Find N3 และ OPPO Find N3 Flip พร้อมกำหนดนิยามใหม่แห่งการพับด้วยประสบการณ์ ที่เหนือกว่า นำเสนอเป็นทางเลือกใหม่ สำหรับคนไทยที่ชื่นชอบสมาร์ทโฟนจอพับ โดยเฉพาะกลุ่มพรีเมียม ที่มองหาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ลํ้าหน้าเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์และสะท้อนตัวตนให้ได้มากที่สุด
OPPO Find N3 สมาร์ทโฟนจอพับรุ่นแฟลกชิป เจาะกลุ่ม Success Capturers หรือกลุ่มคนที่ใช้ชีวิตแบบ Work-Life Balance ที่ชื่นชอบการทำงานพร้อมกับการท่องเที่ยวและถ่ายภาพ รุ่นนี้จึงมาพร้อมกับประสิทธิภาพที่ทรง พลังด้วยนวัตกรรมขั้นสุดในทุกด้านเพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้ตลาด ออปโป้ลงทุนในการวิจัยและพัฒนา ผลิตภัณฑ์เพื่อดีไซน์ให้ตัวเครื่องมีนํ้าหนักเบา เพียง 239 กรัม และบางเพียง 5.8 มิลลิเมตร (เมื่อกางออก) ด้วยจอด้านนอกขนาด 6.3 นิ้ว และเมื่อกางออกจะมีขนาดถึง 7.8 นิ้ว หน้าจอขนาดใหญ่ในสเกลที่สมส่วนเหมาะกับทุกการ ใช้งาน
มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Color OS เปิดใช้งานมุมมองแบบไร้ขอบเขต (Boundless View) สามารถเปิดแอปแบบ เต็มจอสูงสุด 3 แอปบนหน้าจอ เพื่อรองรับการทำงานที่หลากหลายในเวลาเดียวกัน อีกทั้งยังใช้งานมือเดียวได้อย่างสะดวกสบาย สาเหตุที่ตัวเครื่องเบาและบางในระดับนี้มาจากการอัปเกรดบานพับ Flexion Hinge ในรุ่นที่ 3 จึงมอบประสบการณ์การพับที่ลื่นไหล ทนทาน และเบาบางเป็นพิเศษ ที่สำคัญยังให้กล้องหลังระดับแฟลกชิปมากถึง 3 ตัว ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ ขนาดใหญ่เก็บทุกรายละเอียด ให้ทั้งภาพและวิดีโอสวยชัดแม้ในที่แสงน้อย พร้อมความร่วมมือกับ Hasselblad เพื่อสร้างผลงานภาพระดับมาสเตอร์พีซ มาพร้อมขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2 และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4,800 mAh ที่รองรับการชาร์จไว 67W SUPERVOOC สมาร์ทโฟนจอพับรุ่นนี้จึงเป็นพื้นที่แห่ง การทำงานและความบันเทิง
ส่วน OPPO Find N3 Flip สมาร์ทโฟนจอพับที่เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ เพื่อลงโซเชียล ชอบอัปเดตเทรนด์ใหม่ ชื่นชอบแฟชั่นเป็นชีวิตจิตใจ ออปโป้ได้ยกระดับดีไซน์ไปอีกขั้นกับสไตล์สุดคลาสสิค ด้วยดีไซน์กล้องพร้อมวงแหวน Cosmos Ring ซึ่งล้อมรอบด้วย Starlight Track อยู่คู่กับหน้าจอด้านนอกแนวตั้งที่สวยงาม ทำให้ดีไซน์ตัวเครื่องโดดเด่นสะดุดตา มาในสีใหม่ถึง 3 สี ได้แก่ สีทอง Cream Gold, สีชมพู Misty Pink และสีดำ Sleek Black
พร้อมกล้องหลัก 3 ตัว พร้อมกล้อง Telephoto Portrait สามารถซูมแบบออปติคอลได้ถึง 2X ให้ภาพพอร์ตเทรตสวยและมีสไตล์ที่สุดในตลาด สีสดเป็นธรรมชาติตามแบบฉบับของ Hasselblad ในขณะที่การเปิด-ปิดฝาพับสามารถทำได้อย่างลื่นไหล และทนทานด้วย บานพับ Flexion Hinge รุ่นที่ 3 และมีรอยพับตื้นขึ้นจนแทบมองไม่เห็น ในขณะที่หน้าจอด้านนอกที่มีขนาดใหญ่เพียงพอที่จะ ใช้งานตอบข้อความหรือเลื่อนดูฟีดโซเชียล โดยไม่ต้องเปิดหน้าจอด้านใน รวมไปถึงฟีเจอร์ Interactive Pet บนหน้าจอนอกที่ได้รับการปรับปรุงเพิ่มสัตว์เลี้ยงสุดน่ารักเพื่อความเพลิด เพลินในชีวิต ใช้งานได้ยาวนานตลอดวันเพราะแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4,300mAh รองรับการชาร์จไว 44W SUPERVOOC และใช้งาน Dual SIM ระดับ 5G ได้อีกด้วย