ศาลปค.สูงสุดไฟเขียวกกต. เดินหน้าจัดเลือกตั้ง ยกฟ้องปมร้องแบ่งเขตไม่ชอบ

07 เม.ย. 2566 | 04:31 น.
อัปเดตล่าสุด :07 เม.ย. 2566 | 04:49 น.

ศาลปกครองสูงสุดไฟเขียว"กกต." เดินหน้าจัดเลือกตั้ง มีคำพิพากษายกฟ้องที่ "อรรถวิชช์" และคดีที่ 3 ผู้สมัคร.ส. ร้องแบ่งเขตไม่ชอบ

ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายกฟ้องในที่คดีที่ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม. คดีที่นายพัฒนา สัพโส ผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส.จ.สกลนคร  คดีที่นายวิรัตน์ วิริยะพงษ์ ผู้มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ในจ.สุโขทัย และคดีที่นายพัฒ  ตั้งเบญจผล ผู้แทนพรรคประชาธิปัตย์จากจ.สุโขทัย

ยื่นฟ้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรณีขอให้เพิกถอนประกาศกกต.เรื่องแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่ประกอบเป็นเขตเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร ,จ.สกลนคร และจ.สุโขทัย ลงวันที่ 16มี.ค.2566  ตามลำดับ

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า

โดยผู้ร้องให้เหตุผลว่า เมื่อพิจารณาค่าเฉลี่ยจำนวนราษฎรในแต่ละเขตเลือกตั้ง ต่อจำนวน ส.ส.1 คน เป็นตัวตั้ง   ทั้งในเขตพื้นที่ของ กรุงเทพมหานคร  จ.สกลนคร  และ จ.สุโขทัย ตาม ประกาศกกต.เรื่องแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่ประกอบเป็นเขตเลือกตั้งลงวันที่ 16 มี.ค.2566  

จำนวนราษฎรในแต่ละเขตเลือกตั้ง ในแต่พื้นที่ของกรุงเทพมหานคร  จ.สกลนคร และจ.สุโขทัย  มีจำนวนไม่มาก หรือ มีจำนวนไม่น้อย กว่าร้อยละ 10 ของค่าเฉลี่ยจำนวนราษฎรในแต่ละเขตเลือกตั้ง 162,766 คน ต่อจำนวน ส.ส.1 คน  จนเกินไป การที่ กกต.ออกประกาศกกต.เรื่องแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่ประกอบเป็นเขตเลือกตั้งลงวันที่ 16 มี.ค.2566  

ในส่วนของกรุงเทพมหานคร 33 เขตเลือกตั้ง  จ.สกลนคร 7เขตเลือกตั้ง  และ จ.สุโขทัย 4เขตเลือกตั้ง จึงเป็นการประกาศที่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นไปตาม รัฐธรรมนูญ มาตรา 86 (5) กำหนดว่า

จังหวัดใดมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้เกินหนึ่งคน ให้แบ่งเขตจังหวัดออกเป็นเขตเลือกตั้งเท่าจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่พึงมี โดยต้องแบ่งพื้นที่ของเขตเลือกตั้งแต่ละเขตให้ติดต่อกัน และต้องจัดให้มีจำนวนราษฎรในแต่ละเขตใกล้เคียงกัน  จึงพิพากษายกฟ้อง