ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง 2566 มีผลกระทบ เสียสิทธิ 5 ข้อ มีอะไรบ้าง

การเลือกตั้ง ส.ส. 2566 กฎหมายกำหนดคุณสมบัติผู้มีสิทธิเลือกตั้ง บุคคลต้องห้าม รวมถึงบทลงโทษหากผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2566 นี้โดยไม่มีการแจ้งเหตุอันสมควร

ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 กำหนดหน้าที่ทางการเมืองของคนไทยไว้ หากไม่ไปใช้สิทธิและไม่ได้แจ้งเหตุ หรือแจ้งแล้วแต่มิใช่เหตุอันสมควร ย่อมทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งถูกจำกัดสิทธิบางประการอันเป็นการเสียสิทธิทางการเมืองนั้นไปซึ่งกฎหมายได้กำหนดในเรื่องการเสียสิทธิทางการเมืองไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 35

ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งจะถูกจำกัดสิทธิ 5 ประการ ดังนี้ 

1. สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. หรือ ส.ถ. หรือ ผ.ถ. หรือสมัครรับเลือกเป็น ส.ว.

2. สมัครรับเลือกเป็นกำนันและผู้ใหญ่บ้าน

3. เข้าชื่อร้องขอให้ถอดถอน ส.ถ. หรือ ผ.ถ.

4. ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง และข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมือง

5. ดำรงตำแหน่งรองผู้บริหารท้องถิ่น เลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยเลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ประธานที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น ที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น หรือคณะที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น

ระยะเวลาถูกจำกัดสิทธิ

การถูกจำกัดสิทธิ กำหนดเวลาครั้งละ 2 ปี นับแต่วันเลือกตั้งครั้งที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ทั้งนี้ หากในการเลือกตั้งครั้งต่อไปผู้นั้นไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งอีก ให้นับจากวันที่มิได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งใหม่ และหากกำหนดเวลาจำกัดสิทธิครั้งก่อนยังเหลืออยู่เท่าใดก็ให้กำหนดเวลาจำกัดสิทธินั้นสิ้นสุดลง 

ดังนั้น เพื่อไม่ให้ถูกจำกัดสิทธิที่พึงได้รับจึงควรต้องไปใช้สิทธิเลือกตั้งตามหน้าที่ในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.

ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ส.ส. 2566

• มีสัญชาติไทย หรือ หากเคยแปลงสัญชาติ
• ต้องได้สัญชาติไทยมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี
• อายุไม่ตํ่ากว่า 18 ปี ในวันเลือกตั้ง
• มีชื่อ อยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้งมาแล้ว
• เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 90 วัน นับถึงวันเลือกตั้ง

บุคคลต้องห้ามใช้สิทธิเลือกตั้ง 2566 

• เป็นภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช
• อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง
• ต้องคุมขังโดยหมายของศาล หรือคําสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย