เปิดวิธีแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท 55 ล้านคน พรรคเพื่อไทย

08 เม.ย. 2566 | 05:40 น.
อัปเดตล่าสุด :12 เม.ย. 2566 | 02:31 น.

ฐานเศรษฐกิจ สัมภาษณ์พิเศษ “ดร.ปานปรีย์ พหิทธานุกร” หนึ่งในที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย เปิดข้อมูล นโยบาย คอนเซ็ปต์ วิธีแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ให้คนไทย 55 ล้านคน อย่างละเอียด

การประกาศนโยบาย "แจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท" ของพรรคเพื่อไทย กำลังกลายเป็นกระแสที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และนับเป็นนโยบายคิดใหญ่อีกหนึ่งนโยบายของเพื่อไทย ซึ่งผลักดันออกมาใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง โดยตั้งเป้าหมายต้องแลนด์สไลด์เท่านั้น

นโยบายที่ออกมาครั้งนี้ แน่นอนว่า เป็นการขับเคลื่อนออกมาจากคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งมี นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เป็นประธาน พร้อมผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจด้านต่าง ๆ เข้ามาเป็นที่ปรึกษา ทั้ง พันศักดิ์ วิญญรัตน์, เศรษฐา ทวีสิน, ศุภวุฒิ สายเชื้อ และ ปานปรีย์ พหิทธานุกร 

ทั้งนี้ ฐานเศรษฐกิจ ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ ดร.ปานปรีย์ พหิทธานุกร” หนึ่งในที่ปรึกษาคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ ของพรรคเพื่อไทย เพื่อถ่ายทอดนโยบายการแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ตั้งแต่ต้นจนจบ พร้อมกระบวนการขับเคลื่อนนโยบายหากศึกเลือกตั้งครั้งนี้พรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล

โดยยอมรับว่า นโยบายนี้ถือเป็นการคิดนโยบายที่เป็นนวัตรรมอย่างหนึ่ง ซึ่งผ่านกระบวนการคิดกันมาอย่างละเอียด และที่ผ่านมาก็มีการทำนโยบายลักษณะนี้ในบางประเทศแล้ว เช่น ประเทศฟินแลนด์ คือ Universal Basic Income

 

สัมภาษณ์พิเศษ ดร.ปานปรีย์ พหิทธานุกร ที่ปรึกษาคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ ของพรรคเพื่อไทย

คอนเซ็ปต์ของนโยบายแจกเงินดิจิทัล

“ดร.ปานปรีย์” อธิบายว่า มาจากแนวคิดการผลักดันนวัตกรรม ซึ่งเรื่องของการแจกเงินดิจิทัลก็ถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทย แม้ในช่วงแรกเมื่อประกาศไปแล้วจะทำให้คนเกิดความตกใจว่าจะมีวิธีการทำยังไง มีรูปแบบอย่างไร แล้วจะใช้เงินได้อย่างไรบ้าง 

เบื้องต้นในการผลักดันนวัตกรรมการแจกเงินดิจิทัลออกมาถึงมือชาวบ้าน จะทำผ่านเทคโนโลยีที่เรียกว่า บล็อกเชน (blockchain) และออกโทเคนดิจิทัล (Digital Token) มาใช้ ซึ่งการนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้นี้ “ดร.ปานปรีย์” ยอมรับว่า ในช่วงแรกคนอาจยังไม่เข้าใจทั้งเรื่องบล็อกเชน และโทเคนดิจิทัล ซึ่งพรรคจะทยอยอธิบายรายละเอียดมาเป็นระยะ เพื่อให้คนค่อย ๆ เข้าใจ

เขายอมรับว่า แน่นอนหลายคนยังไม่เข้าใจว่าโทเคนคืออะไร แล้วจะเปลี่ยนเป็นเงินได้หรือไม่ ซึ่งการออกโทเคน หรือทำคริปโทเคอร์เรนซีขึ้นมา ก็ต้องไปคุยกับธนาคารแห่งประเทศไทย และ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ที่ดูเรื่องนี้ ซึ่งวิธีการปฏิบัติจะต้องรอดูข้างหน้าต่อไป

อย่างไรก็ดีการขับเคลื่อนนโยบายครั้งนี้ มีเป้าหมายใหญ่คือ การกระตุ้นการใช้จ่ายและการบริโภคภายในประเทศ ด้วยการนำเทคโนโลยีมาขับเคลื่อนทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจจากเงินดิจิทัลที่ให้ไปคนละ 1 หมื่นบาท ซึ่งพรรคเพื่อไทยมั่นใจว่า หากเริ่มนโยบายนี้ออกไปแล้วจะช่วยทำให้เศรษฐกิจประเทศให้ขยายตัวอย่างน้อยปีละ 5% 

“นโยบายนี้จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจประเทศแน่นอน ผ่านการสร้างอุปสงค์ขับเคลื่อนอุปทาน หรือสร้างดีมานด์ไปครีเอทซัพพลาย เพราะสุดท้ายเมื่อคนใช้เงินมากขึ้น ก็เกิดการผลิตที่เพิ่มขึ้น และยังส่งผลไปถึงการจ้างงานที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นตามไปอีกด้วย แต่ทั้งหมดนั้นตังอยู่บนหลักความเชื่อว่าสามารถทำได้ และยังช่วยลดความเหลื่อมล้ำด้วย”

ภาพประกอบข่าว เปิดวิธีแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท นโยบายพรรคเพื่อไทย

วิธีการแจกเงินดิจิทัล

วิธีการผลักดันนโยบายนี้ จะช่วยให้คนไทยทุกคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป จำนวน 55 ล้านคน ได้เงินที่อยู่ในกระเป๋าเงินดิจิทัล (Digital  Wallet) จำนวน 1 หมื่นบาท เป็นโทเคนดิจิทัล โดยเป็นการแจกเพียงครั้งเดียว ไม่ได้แจกทุกปีตามงบประมาณ แต่บางช่วงถ้ามีความจำเป็น และมีเงินเหลือ ก็อาจขยายเพิ่มเป็นเฟสได้

สำหรับการแจกเงินลงในกระเป๋าเงินดิจิทัลจะมีอายุการใช้งาน 6 เดือนใช้จับจ่ายใช้สอยสินค้าที่จำเป็นในการดำรงชีวิตที่ไม่เกี่ยวข้องกับอบายมุข

โดยเงินดิจิทัลนี้จะใช้จ่ายได้ เฉพาะกับร้านค้าชุมชน และต้องอยู่ในรัศมี 4 กิโลเมตรตามทะเบียนบ้านของผู้ใช้ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและกระจายรายได้สู่ชุมชน ขณะที่ร้านค้าสามารถนำเงินดิจิทัลมาแลกเป็นเงินบาทได้กับธนาคารรัฐในภายหลัง

“ในส่วนของการออกโทเคนดิจิทัลนั้น จะเป็นการออกโดยรัฐบาล ซึ่งสกุลเงินที่ไม่ได้ออกเป็นสกุลเงินบาท ต้องมีการแบ็คอัพค่าเงินเพื่อให้มีความน่าเชื่อถือด้วย ซึ่งเรื่องนี้สามารถทำได้ เหมือนกับกรณีที่รัฐบาลออกพันธบัตร”

 

ภาพประกอบข่าว เปิดวิธีแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท นโยบายพรรคเพื่อไทย

 

แจกเงินดิจิทัลได้เมื่อไหร่

“ดร.ปานปรีย์” ระบุว่า เบื้องต้นหากพรรคเพื่อไทย ชนะเลือกตั้งและได้จัดตั้งรัฐบาล นโนบายแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท จะสามารถโอนเงินให้ประชาชน 55 ล้านคนได้ภายใน 6 เดือน

หาเงินจากที่ไหนมาแจก

ที่ปรึกษาคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย อธิบายว่า แหล่งเงินที่จะนำมาใช้นั้น ส่วนแรกจะมาจากรายได้ประเทศ โดยเฉพาะการเก็บภาษีที่เพิ่มขึ้น ทั้งภาษีจากธุรกิจทั่วไป และภาษีมูลค่าเพิ่ม

อีกส่วนคือการทบทวนงบประมาณรายจ่ายประจำปี โดยเฉพาะการนำไปใช้จ่ายที่ไม่เกิดประโยชน์ เช่น งบกลางวงเงินกว่า 5-6 แสนล้านบาท อาจมีบางรายการที่ไม่มีความจำเป็นเบื้องต้นอาจดึงออกมาใช้ในนโยบายหรือภารกิจที่จำเป็นสำหรับบ้านเมืองได้อีก 2-3 แสนล้านบาท 

ขณะเดียวกันยังมีการใช้จ่ายงบประมาณในส่วนอื่น ๆ ที่ไม่จำเป็นของภาคราชการ และไม่ทำให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ ก็คงต้องมีการทบทวนเรื่องงบประมาณกันใหม่อีกครั้ง

แจกเงินทำเงินเฟ้อไทยพุ่งไหม

“ดร.ปานปรีย์” ขยายความว่า แม้การขับเคลื่อนนโยบายนี้จะส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อประเทศหรือไม่นั้น คำถามนี้ยังไม่เคยมีใครพูด แต่ยืนยันว่า ณ ขณะนี้เงินเฟ้อของไทยเป็นขาลงแล้ว และอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ ซึ่งการใช้เงินดิจิทัลไปจับจ่ายยังช่วงสร้าง Multiplier effect ต่อระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นด้วย

 

ภาพประกอบข่าว พรรคเพื่อไทย หาเสียงเลือกตั้ง 2566