เลือกตั้ง 2566 ที่จะมีขึ้นพร้อมกันทั่วราชอาณาจักรในวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 และเลือกตั้งล่วงหน้าในเขต นอกเขตเลือกตั้ง พร้อมกันในวันที่ 7 พฤษภาคม 2566 รวมถึงการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ที่ขึ้นกับการกำหนดของสถานเอกอัครราชทูตไทย และสถานกงสุลใหญ่ไทยทั่วโลก
กกต.คาดการณ์ว่า ประชาชนกว่า 52 ล้านรายชื่อจะให้ความสนใจ ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งมากกว่าช่วงปี 2562 ฉะนั้นภารกิจการขนบัตรเลือกตั้ง ทั้งการส่งบัตรเลือกตั้ง และอุปกรณ์ ไปยังหน่วยเลือกตั้ง และขนส่งบัตรเลือกตั้งล่วงหน้า ที่ลงคะแนนแล้ว ทั้งในประเทศ และต่างประเทศกลับมายังหน่วยนับคะแนน จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด โดย ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ได้กล่าวถึงภารกิจของไปรษณีย์ไทย ในการสนับสนุนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2566 มี 5 ภารกิจ ได้แก่
1.การจัดส่งหนังสือแจ้งรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง (ส.ส. 1/6) และเอกสารแนะนำตัวผู้สมัครรับเลือกตั้ง โดยจะเริ่มจัดส่งในเดือนเมษายน ไปยังประชาชนกว่า 18 ล้านครัวเรือนภายใน 20 วันก่อนเลือกตั้ง
2.การจัดส่งบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและอุปกรณ์ที่ใช้ในการเลือกตั้งทั่วไป
3.การจัดส่งบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนอกราชอาณาจักรล่วงหน้าที่ลงคะแนนแล้ว
4.การจัดส่งบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนอก/ในเขตเลือกตั้งล่วงหน้า
ที่ลงคะแนนแล้ว
5.การจัดส่งและตอบกลับหนังสือแจ้งเจ้าบ้านที่ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งก่อนวันเลือกตั้งนอกเขตเลือกตั้ง/ในเขตเลือกตั้ง
โดยการขนส่งมีระบบคุ้มกันความปลอดภัยจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติทุกเส้นทาง ในการขนส่งบัตรเลือกตั้ง และอุปกรณ์ต่าง ๆ ไปยัง 400 เขต จำนวน กว่า 500 เที่ยว พร้อมทั้งการจัดส่งบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรไปยัง 66 ประเทศ 94 เมืองปลายทาง ผ่านระบบขนส่งทางอากาศยาน ระหว่างวันที่ 14 – 15 เมษายน 2566
สำหรับการขนส่งบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าในประเทศ ที่ลงคะแนนแล้ว คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ช่วงวันที่ 7 – 13 พฤษภาคม 2566 และใช้รถยนต์ขนส่งไม่ต่ำกว่า 500 เที่ยว ในการจัดส่งบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนอกเขตเลือกตั้ง/ในเขตเลือกตั้งล่วงหน้าที่ลงคะแนนแล้ว ไปยัง กกต. โดยระดมเจ้าหน้าที่กว่า 500 คน คัดแยกบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าที่ลงคะแนนแล้วตลอด 24 ชั่วโมง
มีการจัดตั้ง “ศูนย์ประสานงานการขนส่งบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2566” โดยใช้พื้นที่ไปรษณีย์ไทย สำนักงานใหญ่ เพื่อภารกิจตรวจนับ และจัดเก็บบัตรเลือกตั้ง รายงานผลการปฏิบัติงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยมีระบบ CCTV GPS และห้อง Control Room ที่สามารถติดตามการขนส่ง และตรวจสอบหากเกิดความผิดปกติได้ตลอด 24 ชั่วโมง
นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง เปิดเผยว่า สิ่งที่ กกต.
ให้ความสำคัญควบคู่กับการรณรงค์การใช้สิทธิเลือกตั้งในปีนี้ คือมาตรการด้านความปลอดภัย และความโปร่งใส โดยขอให้เชื่อมั่นในการทำหน้าที่อย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้
กกต.มอบหมายให้ไปรษณีย์ไทย ทำหน้าที่ขนส่งบัตรเลือกตั้งล่วงหน้า ที่ลงคะแนนแล้วทั้งหมดมาทำการคัดแยก ณ ศูนย์ประสานงานการขนส่งบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยจัดชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมดูแลบัตรเลือกตั้งตลอดการขนส่ง ซึ่งมีทั้งรถนำ รถปิดท้ายขบวน ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ติดอาวุธ และนอกเครื่องแบบที่จะติดตามอย่างใกล้ชิด
สำหรับการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร นายรุจ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ได้จัดส่งเครื่องมือ และอุปกรณ์ต่างๆ เช่น คูหาเลือกตั้ง สายรัดหีบบัตรเลือกตั้ง ไปยังสถานเอกอัครราชทูตไทย และสถานกงสุลใหญ่ไทยทั่วโลกแล้ว
หลังจากนี้ กรมการกงสุลจะเร่งให้เจ้าหน้าที่ของสถานเอกอัครราชทูตไทย และสถานกงสุลในต่างประเทศ ประชาสัมพันธ์ถึงวันเวลา สถานที่ และช่องทางการใช้สิทธิ เนื่องจากสถานทูต และกงสุลแต่ละแห่งกำหนดไว้ไม่เหมือนกัน
เรื่องการขนส่งบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรที่ลงคะแนนแล้ว กลับมานับคะแนนนั้น กรมการกงสุล มั่นใจว่าจะสามารถขนส่งกลับมาได้ทันเวลาเพื่อนำไปนับคะแนนได้ 100 % นอกจากนี้ กรมการกงสุลได้พัฒนาระบบติดตามการจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ซึ่งสามารถตรวจสอบและติดตามสถานะการดำเนินงานของสถานทูต และสถานกงสุลใหญ่ทั่วโลก และรายงานความเคลื่อนไหวได้แบบเรียลไทม์