14 เมษายน 2566 - เกาะกระแสเลือกตั้ง 2566 สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) ออกผลการศึกษา เรื่อง โพล เลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่ 3 : ข้อมูลใหม่แลนด์สไลด์ จากกรณีศึกษาประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศอายุ 18 ปีขึ้นไปใน 400 เขตเลือกตั้งและผลการประมาณการจำนวน 100 ที่นั่งผู้แทนราษฎรหรือ ส.ส. ในบัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคการเมือง ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 53,094,778 คนทั่วประเทศ โดย 6,073 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 5 – 13 เมษายน พ.ศ.2566
ประชาชน ราว 32 ล้านคนจะออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง เพื่อไทยยังนำ
โดยผลสำรวจพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 61.4 ตั้งใจจะออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งนี้หรือประมาณการได้ว่าจะมีผู้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส. ประมาณ 32,600,194 คน หรือ กว่า 30 ล้านคนทั่วประเทศที่จะออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 38.6 ไม่ไปหรือประมาณ 20 ล้านคนที่จะไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งนี้
ที่น่าสนใจคือ ผลการศึกษาประมาณการจำนวน 500 และค่าร้อยละของที่นั่งผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. แต่ละพรรคการเมืองจำนวนต่ำสุด ถึง สูงสุด ของแต่ละพรรคการเมือง จำแนกทั้ง ส.ส.เขตเลือกตั้งและ ส.ส. บัญชีรายชื่อ ดังนี้ ได้แก่ พรรคเพื่อไทย จะได้ผู้แทนราษฎรหรือ ส.ส. เขตเลือกตั้งจำนวน 133 ที่นั่งหรือร้อยละ 33.3ของจำนวนที่นั่ง ส.ส.เขตเลือกตั้ง 400 ที่นั่ง และคาดว่าจะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จำนวน 27 ที่นั่ง รวมทั้งสิ้น พรรคเพื่อไทยจะได้ 160 ที่นั่งโดยมีค่าต่ำสุดที่ 135 ที่นั่งและค่าสูงสุดอยู่ที่ 185 ที่นั่งเป็นของพรรคเพื่อไทยในการศึกษาครั้งนี้
ในขณะที่ พรรคการเมืองที่จะได้จำนวนผู้แทนราษฎรหรือ ส.ส. อันดับที่สอง ได้แก่ พรรค ภูมิใจไทย จะได้ผู้แทนราษฎรหรือ ส.ส. เขตเลือกตั้งจำนวน 101 ที่นั่งหรือร้อยละ 25.3 ของ ส.ส.เขตเลือกตั้งทั้งหมด 400 ที่นั่งและคาดว่าจะได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคภูมิใจไทย จำนวน 20 ที่นั่ง รวมทั้งสิ้น พรรคภูมิใจไทยจะได้ 121 ที่นั่งโดยมีค่าต่ำสุดที่ 96 ที่นั่งและค่าสูงสุดอยู่ที่ 146 ที่นั่งเป็นของพรรคภูมิใจไทยในการศึกษาครั้งนี้
ขณะพรรคการเมืองที่คาดว่าจะได้จำนวนที่นั่ง ส.ส. อันดับที่สาม ได้แก่ พรรคพลังประชารัฐ จะได้ผู้แทนราษฎรหรือ ส.ส. เขตเลือกตั้งจำนวน 53 ที่นั่งหรือร้อยละ 13.3 ของ ส.ส.เขตเลือกตั้งทั้งหมด 400 ที่นั่งและคาดว่าจะได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคพลังประชารัฐ จำนวน 11 ที่นั่ง รวมทั้งสิ้น พรรคพลังประชารัฐจะได้ 64 ที่นั่ง โดยมีค่าต่ำสุดที่ 39 ที่นั่งและค่าสูงสุดที่ 89 ที่นั่งเป็นของพรรคพลังประชารัฐในการศึกษาครั้งนี้
อันดับที่สี่ ได้แก่ พรรคประชาธิปัตย์ จะได้จำนวนที่นั่ง ส.ส. เขตเลือกตั้งจำนวน 44 ที่นั่งและคาดว่าจะได้ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคประชาธิปัตย์ จำนวน 8 ที่นั่ง รวมทั้งสิ้น พรรคประชาธิปัตย์จะได้ 52 ที่นั่ง โดยมีค่าต่ำสุดที่ 27 ที่นั่งและค่าสูงสุดที่ 77 ที่นั่ง อันดับที่ห้า ได้แก่ พรรครวมไทยสร้างชาติ จะได้จำนวนที่นั่ง ส.ส.เขต 35ที่นั่ง และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 8 ที่นั่ง รวมทั้งสิ้น พรรครวมไทยสร้างชาติจะได้43 ที่นั่งโดยมีค่าต่ำสุดที่ 18 ที่นั่งและค่าสูงสุดที่ 68 ที่นั่ง
คาด พรรคก้าวไกล คว้าเก้าอี้ ส.ส. ไม่เกิน 47 ที่นั่ง
ที่น่าพิจารณาคือ พรรคก้าวไกล ได้จำนวน ส.ส.เขตเลือกตั้ง เป็นอันดับที่หก คือได้ 10 ที่นั่ง แต่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อได้อันดับสามคือ ได้12 ที่นั่ง รวมแล้ว พรรคก้าวไกลจะได้ 22 ที่นั่งโดยจะได้จำนวนที่นั่งสูงสุดที่ 47 ที่นั่ง
ในขณะที่ พรรคอื่น ๆ จะได้ ส.ส.เขตเลือกตั้งจำนวน 24 ที่นั่งและ ส.ส.บัญชีรายชื่อจำนวน 14 ที่นั่ง รวมทั้งสิ้นพรรคอื่น ๆ จะได้รวม 38 ที่นั่ง โดยมีค่าต่ำสุดที่ 13 ที่นั่งและค่าสูงสุดอยู่ที่ 63 ที่นั่ง
แลนด์สไลด์ ไม่มีอยู่จริง
รายงานของ ซูเปอร์โพล ระบุว่า ข้อมูลใหม่ในผลการศึกษาครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า แลนด์สไลด์ไม่มีอยู่จริงกับพรรคการเมืองใด ๆ ในภาพรวมทั้งประเทศ แต่อาจจะเกิดได้เป็นรายพื้นที่บางแห่ง เช่น ภาคใต้ที่ยังคงพบว่า พรรคประชาธิปัตย์มีร่องรอยของแลนด์สไลด์ที่อาจจะได้ยกจังหวัดในหลายพื้นที่โดยเฉพาะในฝั่งอ่าวไทย ในขณะที่ พรรคภูมิใจไทย จะกระจายแทรกอยู่ในภาคในลักษณะที่เกือบแลนด์สไลด์ แต่พรรคเพื่อไทยจะมีภาพค่อนข้างชัดเจนในแลนด์สไลด์ในภาคอีสานตอนบน และพรรคภูมิใจไทยได้ในอีสานตอนล่าง
โดยมี พรรคพลังประชารัฐเด่นในโคราชและอีสานล่างเช่นกัน เช่น ปราจีนบุรี สระแก้ว เป็นต้น ส่วนภาคเหนือ ยังคงชัดเจนในพรรคเพื่อไทย แต่ภาคกลางจะเป็นลักษณะผสมผสานกันของพรรคการเมืองต่าง ๆ ในพื้นที่