วันนี้(4 มิ.ย. 66) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าว มี 20 ว่าที่ ส.ส. ถูกร้องเรียนเรื่องเลือกตั้ง หาก เป็นของพรรคเพื่อไทย และ พรรคก้าวไกล จะมีผลต่อการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ ว่า ยังไม่อยากคิดไปถึงขั้นนั้น
“แต่ถามว่ากระทบหรือไม่ จริงๆ ก็ไม่กระทบ และไม่เป็นอุปสรรคอะไรในการจัดตั้งรัฐบาล แต่อย่างน้อย กกต. ต้องรับรองให้ได้ 95% ก่อน เท่ากับ 475 คน หากขาดไป 20 ก็อาจจะทำให้อะไรเปลี่ยนไปบ้างนิดหน่อย”
นายประเสริฐ กล่าวว่า หากจะมีการเลือกตั้งใหม่ กกต.คงจะจัดให้มีการเลือกตั้งเร็ว และมั่นใจว่าประชาชนจะเลือกฝั่งเราอยู่
ก่อนหน้านี้ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องร้องเรียนการเลือกตั้ง ส.ส.ว่า ตัวเลขคำร้องมีกว่า 280 เรื่อง ส่วนผู้ที่เลือกตั้งชนะถ้าจำไม่ผิด มีประมาณกว่า 20 คน ซึ่งตอนนี้จะต้องขอตรวจสอบก่อนว่ามีหลักฐานชัดเจนหรือไม่ โดยจะต้องมีการสั่ง 3 อย่างคือ 1.สั่งเลือกตั้งใหม่ 2.สั่งนับคะแนนใหม่ และ 3.สั่งออกเสียงลงคะแนนใหม่
เมื่อถามว่าตามกฎหมายที่ให้ประกาศรับรองร้อยละ 95 เบื้องต้นจะมีการรับรอง 475 คนใช่หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ใช่ ตัวเลขเป็นเช่นนั้น แต่ว่าคิดว่าถ้าเผื่อประกาศได้ 100% ได้ เราก็ประกาศ เพราะกฎหมายระบุว่าประกาศร้อยละ 95 เป็นอย่างต่ำ
เมื่อถามว่า กรณีหุ้นสื่อของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์หัวหน้าพรรคก้าวไกล ตอนนี้คำร้องอยู่ในขั้นตอนไหนแล้ว นายอิทธิพร กล่าวว่า อยู่ระหว่างรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานจาก กกต. ซึ่งจะเข้าสู่การพิจารณาของกกต.ในไม่ช้านี้ เมื่อถามว่าคาดว่าจะมีการส่งศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยเพื่อให้สิ้นข้อสงสัยหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้เพราะเรายังไม่เห็นข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน ตอบไปก่อนคงไม่ได้
เมื่อถามว่า คดีของนายพิธา ต่างจากคดีถือหุ้นสื่อของคนอื่นหรือไม่อย่างเช่น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า นายอิทธิพร กล่าวว่า คดีหุ้นทุกคดีจะขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง พยานหลักฐานที่นำเสนอต่อเรา เราจะพิจารณาตัดสินไปตามหลักฐานที่มี ถ้าเห็นว่าพยานหลักฐานไม่พอก็ขอให้สอบเพิ่มหรือศึกษาเพิ่มได้ ตอนนี้เรายังไม่เห็นพยานหลักฐานที่เป็นทางการที่เป็นการทำงานของกกต. ฉะนั้นตนจึงไม่สามารถที่จะพูดอะไรไปได้มากกว่านี้
เมื่อถามว่าพยานหลักฐานตอนนี้มีเพียงพอ ยังต้องเพิ่มอะไรหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้เพราะสำนักงาน กกต. ยังไม่เสนอเรื่องขึ้นมา อยู่ในระหว่างการดำเนินการของสำนักงานฯ เมื่อถามว่า อย่างกรณีผู้ที่ถูกร้องคือนายพิธาจะต้องมีการเรียกมาชี้แจงหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับกระบวนการ ถ้าจะเรียกก็คงไม่ใช่กกต.เรียก จะต้องเป็นสำนักงานฯเรียก
เมื่อถามว่ามีคนมองว่ากรณีคำร้องของ นายพิธาเหมือนเป็นการเล่นงานทางการเมืองของฝ่ายการเมือง นายอิทธิพล กล่าวว่า เราไม่เคยดูเรื่องนั้น ทุกคำร้องเราต้องใช้พื้นฐานของระเบียบว่าด้วยการสืบสวนและไต่สวนของ กกต.เป็นหลักในการพิจารณาตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งแรก เมื่อถามโซเชียลมีการกดดันการตรวจสอบคดีหุ้นของนายพิธา นายอิทธิพร กล่าวว่า ไม่มี กกต.และสำนักงานฯปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่มาโดยตลอด