สปอตไลท์สาดส่อง “อุ๊งอิ๊ง-เศรษฐา-ชัยเกษม” 3 แคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย
หลังมติประชุมรัฐสภาโหวตนายกฯรอบสอง ตีตกชื่อของ "พิธา ลิ้มเจริญรัตน" พ้นเส้นทางนายกฯ แสงสปอตไลท์ก็สาดส่อง 3 แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย “อุ๊งอิ๊ง-เศรษฐา-ชัยเกษม” ที่มีลุ้นในการเสนอชื่อในการโหวตเลือกนายกฯรอบ3
19 ก.ค. 2566 มติที่ประชุมรัฐสภา ตีตกชื่อของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล หมดลุ้นปิดเส้นทางการเป็น นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย เพราะเสนอชื่อซ้ำอีกรอบไม่ได้
ทำให้ พรรคเพื่อไทย(พท.) ที่มีคะแนนจากการเลือกตั้งทั่วไปเป็นลำดับที่สองและเป็น 1 ใน 8 พรรคพันธมิตรที่เซ็นเอ็มโอยูร่วมจัดตั้งรัฐบาล ก็จะเสนอชื่อ แคนดิเดตของพรรค ซึ่งมี 3 คน คือ นายเศรษฐา ทวีสิน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร และ นายชัยเกษม นิติสิริ ตามลำดับ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อน.ส. แพทองธาร “อุ๊งอิ๊ง” ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ออกมาให้สัมภาษณ์วานนี้ (18 ก.ค.) ถึงกรณีถ้านายพิธา ไม่ผ่านการโหวตเป็นนายกฯ ในรอบที่สองว่า พรรคเพื่อไทย (พท.) จะต้องกลับมาคุยกันก่อน และ“หากต้องเป็นพรรคเพื่อไทย ก็จะเสนอชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ”
ดังนั้น วันนี้ เรามาส่องโปรไฟล์ของ 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยกันอีกครั้ง เริ่มจาก...
“เศรษฐา ทวีสิน” จากเจ้าพ่ออสังหาฯหมื่นล้านสู่แคนดิเดตนายกฯ
เศรษฐา ทวีสิน เกิดเมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2506 ปัจจุบันอายุ 61 ปี มีชื่อเล่น “นิด” เป็นบุตรคนเดียวของ ร.อ.อำนวย ทวีสิน กับชดช้อย (สกุลเดิม: จูตระกูล) ในด้านชีวิตครอบครัว สมรสกับ พ.ญ.พักตร์พิไล (สกุลเดิม: ปลัดรักษา) หรือ "หมออ้อม "มีบุตร 3 คน คือ นายณภัทร ทวีสิน "น้อบ", นายวรัตม์ ทวีสิน “แน้บ” และคนเล็กสุด นางสาวชนัญดา ทวีสิน “นุ้บ"
ประสบความสำเร็จเป็นนักธุรกิจในวงการอสังหาริมทรัพย์ อดีตประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ปัจจุบันประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ของ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร และเป็นหนึ่งในบุคคลที่ได้รับเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีไทยจากพรรคเพื่อไทย
เศรษฐา สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้านการเงินที่มหาวิทยาลัยบัณฑิตศึกษาแคลร์มอนต์ (Claremont Graduate University) รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐ หลังจบการศึกษาระดับปริญญาโทในปี 2529 เข้าทำงานที่ พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เป็นเวลา 4 ปี ต่อมาได้ย้ายไปทำงานที่ บจก.แสนสำราญ ของอภิชาติ จูตระกูล ลูกพี่ลูกน้องของเขา หลังจากนั้นได้เปลี่ยนชื่อบริษัท เป็น บมจ.แสนสิริ โดยเขาได้ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทดังกล่าว
ในการชุมนุม พ.ศ. 2556–2557 เศรษฐาแสดงความไม่เห็นด้วยกับพฤติการณ์ของ กปปส. ต่อมาหลังรัฐประหาร 2557 คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้ออกคำสั่งเรียกให้เขาไปรายงานตัว ณ หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์
หลังจากนั้นเมื่อเกิดการระบาดทั่วของโควิด-19 และการประท้วงซึ่งนำโดยกลุ่มเยาวชน เป็นอีกครั้งที่ "เศรษฐา" ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การบริหารสถานการณ์ดังกล่าวของรัฐบาล
ในเดือน พ.ย. 2565 เขาประกาศผ่านบัญชีทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกของพรรคเพื่อไทย และต่อมาในเดือน มี.ค. 2566 พรรคเพื่อไทยแต่งตั้งเศรษฐา เป็นประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวของพรรคเพื่อไทย โดยเป็นที่ปรึกษาให้กับแพทองธาร ชินวัตร
จากนั้นเขาได้ลาออกจากแสนสิริ โดยไม่รับเงินเดือน พร้อมโอนหุ้นที่เคยถืออยู่ในบริษัทจำนวน 13 แห่ง ให้บุคคลอื่น รวมถึงชนัญดา บุตรคนเล็กของเขาอีกด้วย
ถ้าเสนอชื่อ “เศรษฐา” ยังไม่ผ่าน ก็ถึงเวลาของแพทองธาร ชินวัตร
แพทองธาร หรือ อุ๊งอิ๊ง ชินวัตร เกิดวันที่ 21 สิงหาคม 2529 ปัจจุบันอายุ 36 ปี เป็นบุตรสาวคนเล็กของคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย มีพี่น้องอีก 2 คน คือพี่ชายนายพานทองแท้ และพี่สาว นางสาวพินทองทา ชินวัตร
“อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์ และมัธยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย สำเร็จปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ สาขาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโท International Hotel Management จากมหาวิทยาลัย Surrey University ประเทศอังกฤษ
ในด้านอาชีพการงาน เธอเคยดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ด้านบริหารกลุ่มธุรกิจโรงแรม บริษัท เรนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด และกรรมการบริษัทธุรกิจในเครือ เช่น โรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ โรงแรม เทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ สนามกอล์ฟอัลไพน์ โรงแรมเอสซี ปาร์ค
มีชื่อถือหุ้นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ 1 บริษัท คือบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC จำนวนทั้งสิ้น 1,216,149,870 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 28.82% หรือมีมูลค่ารวมกว่า 5,521,320,409.8 บาท (จากราคาปิดวันที่ 8 ก.พ. 2566 ที่ราคา 4.54 บาทต่อหุ้น)
สถานะทางครอบครัว แพทองธารสมรสกับปิฎก สุขสวัสดิ์ (ชื่อเล่น: ปอ) ซึ่งจบการศึกษาระดับปริญญาตรี จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมเครื่องกล มีอาชีพก่อนแต่งงานเป็นนักบิน ทั้งคู่มีบุตรสาวคนโต ชื่อ “น้องธิธาร” วัยสองขวบเศษ และบุตรชายคนเล็ก ที่เพิ่งคลอดหลังคุณแม่เป็นแคนดิเดตนายกฯ คือ “น้องธาษิณ” วัยสองเดือน
บนเส้นทางการเมือง กล่าวได้ว่า แพทองธารมีสายเลือดการเมืองมาตั้งแต่เป็นวัยรุ่น เธอเป็นลูกไม้หล่นใต้ต้นของทักษิณ ชินวัตร เคยถือการ์ดและโปสเตอร์ช่วยทักษิณรณรงค์หาเสียงมาตั้งแต่เด็ก และนิยามตัวเองว่าเป็น “ลูกสาวของพ่อ” มาตลอด วันนี้เธอเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคอย่างเต็มภาคภูมิ
ชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตลำดับที่สาม มองข้ามไม่ได้เช่นกัน
ชัยเกษม นิติสิริ นักการเมืองมากประสบการณ์ เกิดเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2491 ปัจจุบันอายุ 75 ปี จบการศึกษาระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนอัสสัมชัญ มัธยมปลายจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา รุ่นที่ 28 สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีแผนกนิติศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ (เกียรตินิยมอันดับ 2) จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนไปคว้าปริญญาโท L.L.M จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยทุนรัฐบาลตามความต้องการของกรมอัยการ (สำนักงานอัยการสูงสุด) และทุนของมูลนิธิ Starr ประเทศสหรัฐอเมริกา) และยังจบการศึกษาเนติบัณฑิตไทย จากสำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา
ชัยเกษมเป็นนักกฎหมายอาวุโส มีตำแหน่งทางวิชาการเป็นศาสตราจารย์พิเศษคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ทั้งยังเคยดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด และดำรงตำแหน่งรมว.กระทรวงยุติธรรมในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เขาเป็นหนึ่งในรัฐมนตรีที่ไม่ยอมลาออก จนกระทั่งนาทีสุดท้ายก่อนเกิดการรัฐประหาร
ในการเลือกตั้งปี 2566 ชัยเกษมมีตำแหน่งเป็นประธานยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย
แม้ไม่มีบทบาทมากนักในพรรคเพื่อไทย แต่ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย เพราะเคยดำรงตำแหน่งอดีตอัยการสูงสุด จึงถูกเสนอชื่อให้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค รองจากนางสาวแพทองธาร ชินวัตร และนายเศรษฐา ทวีสิน