ระบบร้านอาหารอัจฉริยะ‘TIPPING Point’ นวัตกรรมฮอตธุรกิจบริการจากแดนมังกร

21 ส.ค. 2560 | 13:29 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ส.ค. 2560 | 20:29 น.
การพัฒนาของอินเตอร์เน็ตในปัจจุบันทำให้ผู้ประกอบการในหลายธุรกิจเริ่มเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจไปสู่การให้บริการผ่านอินเตอร์เน็ตมากขึ้น โดยบทความนี้จะเน้นธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มของจีน ซึ่งในปี 2559 มีมูลค่า 3.579 ล้านล้านหยวน ทั้งนี้ จากการสำรวจร้านอาหารทั่วประเทศจีนกว่า 700 แห่งในกรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ นครกว่างโจว เมืองเสินเจิ้น และเมืองต่างๆ ใน 20 มณฑลทั่วประเทศจีน ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2559 ร้านอาหาร 55% เปิดใช้ Official Acount ในแอพพลิเคชัน Wechat เพื่อสื่อสารกับลูกค้า และมีร้านอาหารถึง 40.81% ที่มีแนวโน้มพัฒนาการบริหารจัดการแบบอัจฉริยะ

**ร้านอาหารอัจฉริยะเป็นอย่างไร ?
ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน (www.thaibizchina.com) เปิดเผยว่า การบริหารจัดการร้านอาหารแบบอัจฉริยะ คือ การเปลี่ยนจากการใช้เมนูกระดาษ พนักงานรับออร์เดอร์ และการชำระเงินด้วยเงินสด มาเป็นการให้บริการโดยใช้ระบบออนไลน์ อาทิ การใช้เมนูอาหารอิเล็กทรอนิกส์และการสั่งอาหารแบบออนไลน์ การชำระเงินผ่านแอพพลิเคชัน ซึ่งลูกค้าจะเป็นสมาชิกและสามารถสะสมคะแนนได้ทันทีโดยไม่ต้องกรอกใบสมัคร อีกทั้งยังสามารถแสดงความคิดเห็นและให้คะแนนร้านออนไลน์ ทำให้ร้านสามารถรับทราบผลตอบรับของลูกค้า เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาการบริหารจัดการร้านอาหารให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

TP20-3288-1 ในมลฑลส่านซีมีระบบบริหารจัดการร้านอาหารอัจฉริยะ เรียกว่า TIPPING Point พัฒนา โดย บริษัท Shaanxi YUN ZHI FAN Information Technology โดยร้านอาหารชื่อ Bai Yuan Bai ในนครซีอานซึ่งเปิดให้บริการเมื่อเดือนพฤษภาคม 2560 เป็นหนึ่งในร้านอาหารที่ใช้ระบบ TIPPING Point ในการบริหารจัดการร้าน ผู้จัดการร้านเปิดเผยว่า การนำระบบ TIPPING Point มาใช้ ช่วยให้ร้านลดต้นทุนค่าจ้างพนักงานลงได้ระหว่าง 30-60% ต่อเดือน อีกทั้งยังได้รับผลตอบรับที่ดีจากลูกค้า เนื่องจากร้านสามารถให้บริการได้รวดเร็ว และที่สำคัญร้านสามารถคำนวณรายรับ-รายจ่ายผ่านระบบ ทำให้สามารถควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

บริษัท Shaanxi YUN ZHI FAN Information Technologyผู้พัฒนาระบบ มีแผนขยายการใช้งานระบบ TIPPING Point ไปยังร้านอาหารต่างๆ ในแหล่งท่องเที่ยวของนครซีอาน เนื่องจากในแต่ละวันร้านอาหารในแหล่งท่องเที่ยวมีลูกค้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก และลูกค้าซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวต้องการได้รับการบริการที่รวดเร็ว นอกจากนี้ ระบบ TIPPING Point ยังเป็นอีก ทางเลือกหนึ่งของผู้ประกอบการธุรกิจ Start up ที่มีเงินลงทุน ไม่มากนัก เพราะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มผลกำไร

**ระบบอย่างนี้ ดีอย่างไร
ข้อดีของระบบบริหารจัดการร้านอาหารอัจฉริยะนั้น สามารถประมวลได้ดังนี้ คือ
1.ช่วยลดต้นทุน โดยเฉพาะด้านการจ้างพนักงาน เนื่องจากลูกค้าสามารถสั่งอาหารด้วยตนเองผ่านเมนูอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้การติดตั้งและดูแลระบบบริหารจัดการร้านอาหารอัจฉริยะยังใช้เงินลงทุนไม่มากนัก โดยร้านอาหารร 77.65% ใช้งบประมาณในการลงทุนตํ่ากว่า 10,000 หยวน/ปี และ 5.63% ใช้เงินลงทุนมากกว่า 20,000 หยวน/ปี

2.สามารถให้บริการได้อย่างรวดเร็ว ลูกค้าไม่จำเป็นต้องต่อคิวในการสั่งอาหาร และไม่จำเป็นต้องใช้เงินสด โดยลูกค้าสามารถชำระเงินออนไลน์ได้ทันที นอกจากนี้ ยังช่วยลดความผิดพลาดในการสั่งอาหาร เนื่องจากลูกค้าจะเป็นผู้สั่งอาหารผ่านเมนูอิเล็กทรอนิกส์และคำสั่ง (Order) จะถูกส่งไปยังห้องครัวโดยตรง

3.สามารถบริหารจัดการรายรับ-รายจ่าย และตรวจสอบข้อมูลทางการเงินของร้านผ่านโทรศัพท์มือถือได้ตลอดเวลา โดยในระบบจะมีการจัดเก็บข้อมูลสถิติบันทึกรายรับ-รายจ่ายประจำวัน และคำนวณผลกำไร-ขาดทุน

4. สามารถปรับปรุงและพัฒนาการให้บริการของร้านได้ตรงจุด โดยระบบจะบันทึกข้อมูลการสั่งอาหารของลูกค้า การแสดงความคิดเห็น และการให้คะแนนร้าน ซึ่งร้านสามารถนำข้อมูลดังกล่าวมาปรับปรุงการบริการและจัดโปรโมชันให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น

นวัตกรรมเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือที่ผู้ประกอบการสามารถนำมาใช้เพิ่มเติมขีดความสามารถในการแข่งขัน หากมีระบบบริหารจัดการที่เพิ่มประสิทธิภาพและความสะดวกรวดเร็วในการให้บริการได้อย่างนี้ ก็เชื่อได้เลยว่าย่อมมีแต้มต่อและความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง ในอนาคตเราคงได้เห็นร้านอาหารที่นำระบบอัจฉริยะแบบนี้มาใช้จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆอย่างแน่นอน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,288 วันที่ 17 -19 สิงหาคม พ.ศ. 2560