โครงการศึกษาวิจัยวัคซีน มหาวิทยาลัย อ๊อกซ์ฟอร์ด อธิบายไว้ว่า Herd immunity คือภาวะที่การแพร่กระจายของเชื้อไวรัสและโอกาสยากติดเชื้อโอกาสจะไม่ยากขึ้น เพราะเปอร์เซ็นของผู้ที่ได้รับวัคซีนมีจำนวนมาก
เซอร์แพทริก วาลเลนซ์ หัวหน้าที่ปรึกษาวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลอังกฤษ บอกว่า วัคชีนโคโรนาไวรัสนี้จะยังไม่ถูกผลิตขึ้นมาในช่วงที่มีการระบาด
ดังนั้น เมื่อไม่มีวัคซีน ไม่มีการฉีดวัคซีนให้คนในอังกฤษ ซึ่งมีก็คงจะไม่พอกับจำนวนคนที่มหาศาล ผู้คนในอังกฤษจึงต้องติดเชื้อและฟื้นฟูร่างกายด้วยตัวเองผ่านการประคับประคองตามอาการ เมื่อหายแล้วจะมีโอกาสได้รับเชื้อน้อยลง และแพร่เชื้อได้น้อยกว่าที่เป็นมา เรียกง่ายๆว่าเป็น “วัคซีนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ”
ขณะนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อ 1 คน สามารถแพร่กระจายไปยังคนอื่นได้ถึง 2.4 ถึง 9 คน และคนติดเชื้อส่วนใหญ่แสดงอาการแบบ “อ่อน” หรือไม่รุนแรง และหากจะให้เป็นไปตามหลักการของ Herd immunity ที่กล่าวไว้เบื้องต้น คนอังกฤษจะต้องติดเชื้อโควิด-19 มากถึง 40 ล้านคนจากประชากร 66.4 ล้านคน หรือ 60 % ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ
ในจำนวน 40 ล้านคนที่ติดเชื้อจะมีการไม่รุนแรงประมาณ 80 % หรือ 32 ล้านคน ส่วนอีก 8 ล้านคนจะมีอาการรุนแรงและเข้าขั้นวิกฤต ซึ่งต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิดในโรงพยาบาล
กุญแจสำคัญของ Herd immunity คือการลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส
ดังนั้นผู้ที่ร่างกายจะตอบสนองต่อเชื้อไวรัสโควิด-19มาก หรือพูดง่ายๆคือเมื่อติดเชื้อแล้วจะแสดงอาการรุนแรง เช่น ผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว สามารถแยกตัวออกมาทำการกักตัวในช่วงที่มีการระบาดอย่างรุนแรง และเมื่อไวรัสแพร่กระจายน้อยลง ตามวิธีการของ Herd immunity แล้ว การกักตัวคนเหล่านั้นก็สามารถยกเลิกได้เพื่อเป็นการลดการเสียชีวิตของผู้สูงอายุในช่วงที่มีการแพร่ระบาดสูง
พูดง่ายๆคือ การกักตัวของผู้ที่อ่อนแอ ในขณะที่ประชากรที่เหลือที่ร่างกายแข็งแรงสร้างภูมิคุ้มกัน จากนั้นการระบาดของโควิด-19 จะช้าลง และจะสามารถลดการติดเชื้อได้ในระยะยาว
เซอร์แพททริกยังกล่าวอีกว่า โควิด-19 จะกลายเป็นเชื้อแบบฤดูกาลที่มาปีละครั้ง
Herd immunity จะช่วยป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในวงกว้างจากการระบาดของโรคได้ในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครบอกได้ว่าจะใช้เวลานานเท่าไหร่ที่ 60 % ประชากรจะได้รับเชื้อซึ่งขณะนี้ยังไม่มีประเทศไหนไปถึงจุดนั้น
มีหลายคนออกมาวิจารณ์ถึงเรื่องนี้หลังจากที่รัฐบาลให้ข้อมูลถึงวิธีการรับมือ
นายแพทย์อดัม คูชาร์สกี้ร์ แพทย์ระบาดวิทยา วิทยาลัยพยาบาลและเวชศาสตร์เขตร้อนลอนดอน กล่าวว่า รู้สึกไม่สบายใจกับการที่รัฐบาลมีแนวโน้มจะใช้กลยุทธ์นี้เพื่อรับมือกับไวรัสโควิด-19 โดย “Herd immunity” ไม่ควรถูกนำมาใช้ในทางตรงกับการรับมือไวรัส แทนที่จะพยายามลดผลกระทบที่เกิดขึ้นเท่าที่จะทำได้
“การทำให้คนติดเชื้อจำนวนมากไม่ใช่เป้าหมาย แม้ว่าผลสุดท้ายที่เกิดขึ้นจะเป็นสิ่งที่เราต้องการ” ซึ่งยังมีอีกหลายรูปแบบทั่วโลกที่ถูกนำมาใช้เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อประชากรและระบบสาธารณะสุข
Herd immunity มีเงื่อนไขดังนี้
ประชากร 40 ใน 66 ล้านคนต้องติดเชื้อ
80 % ใน 40 ล้าน = 32 ล้านคน มีอาการไม่รุนแรง
20% ใน40 ล้าน = 8 ล้านคน มีอาการรุนแรง
1 เมื่อไหร่ถึงจะติดเชื้อ 40 ล้านคน
2 สาธารณะสุขที่มีอยู่ รองรับคน 8 ล้านคนได้หรือไม่