ปิดเกือบหมื่นสาขา แมคโดนัลด์ดันไดรฟ์ธรูสู้โควิด

04 พ.ค. 2563 | 05:56 น.

แมคโดนัลด์ ยักษ์ใหญ่เชนฟาสต์ฟู้ดจากสหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ต้องปิดบริการชั่วคราวกว่า 9,750 สาขาทั่วโลก หรือคิดเป็นสัดส่วน 25% ของจำนวนสาขาทั้งหมด 39,000 สาขาที่มีอยู่ ยอดขายในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ (ม.ค.-มี.ค. 2563) ลดลง 6% มาอยู่ที่ระดับ 4,710 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ยอดขายจากร้านที่เปิดบริการมามากกว่า 1 ปี หรือ same-store sales ลดลง 3.4%  

ร้านสาขาส่วนใหญ่จำเป็นต้องปิดบริการนั่งรับประทานในร้านสนองมาตรการล็อกดาวน์ของภาครัฐ
 

บริการไดรฟ์ธรู-เทคเอาท์ช่วยฝ่าวิกฤติ

กำไรของแมคโดนัลด์ในช่วง 3 เดือนแรกนี้ ลดลง 17% มาอยู่ที่ 1,110  ล้านดอลลาร์ หรือเฉลี่ยกำไร 1.47 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของวอลล์ สตรีทก่อนหน้านี้ ที่คาดว่ากำไรต่อหุ้นของแมคโดนัลด์น่าจะอยู่ที่ระดับ 1.57 ดอลลาร์ต่อหุ้น ทั้งนี้ ช่วงต้นปีผลประกอบการของแมคโดนัลด์ทั่วโลก ยังประเดิมได้ดีโดยยอดขายของร้านสาขาที่เปิดบริการมาอย่างน้อย 1 ปี ยังมีการขยายตัวที่อัตรา 7.2% ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่หลังจากนั้นเมื่อเริ่มมีการใช้มาตรการล็อกดาวน์มากขึ้นทั่วโลก ยอดขายก็เริ่มลดลงเรื่อย ๆ ตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา โดยยอดขายของแมคโดนัลด์ทั่วโลก(สำหรับร้านที่เปิดมาแล้วอย่างน้อย 1 ปี) ลดลงถึง 22% ในเดือนมี.ค. ซึ่งสะท้อนการที่ร้านสาขาถูกปิดลงชั่วคราวเป็นจำนวนมาก

 

นักวิเคราะห์ระบุว่า ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และมาตรการล็อกดาวน์ เชนฟาสต์ฟู้ดอย่างแมคโดนัลด์ยังมีโอกาสทำยอดขายได้ดีกว่าร้านอาหารทั่วไปซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีบริการไดรฟ์ธรู เทคเอาท์ และดิลิเวอรี่ เป็นตัวช่วยอยู่แล้ว ข้อมูลของบริษัทวิจัย เอ็นพีดี กรุ๊ป ชี้ว่า ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมีนาคม ยอดขายของร้านอาหารโดยทั่วไปลดลง 79% แต่ยอดขายของร้านอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ดลดลงในอัตราที่น้อยกว่า คือ 40%

ปิดเกือบหมื่นสาขา แมคโดนัลด์ดันไดรฟ์ธรูสู้โควิด

ร้านสาขาของแมคโดนัลด์ 75% ที่ยังเปิดให้บริการอยู่ส่วนใหญ่ให้บริการแบบไดรฟ์ธรูที่ลูกค้าสามารถสั่งซื้อและรับสินค้าโดยไม่ต้องลงจากรถ และบริการเทคเอาท์ หรือบริการสั่งกลับบ้าน ท่ามกลางบรรยากาศที่หลาย ๆ ประเทศยังคงใช้มาตรล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่กระจายของโรคระบาดโควิด-19 ทำให้ประชาชนจำนวนมากยังกักตัวเองอยู่กับบ้าน ทำงานจากบ้าน และกิจกรรมทางธุรกิจบางประเภทยังปิดชั่วคราวอยู่  ยอดขายในบางพื้นที่แม้ไม่ลดลง และยังพอมีการขยายตัว แต่ก็ไม่อาจขยายตัวได้อย่างเต็มที่   

ปัจจุบัน ในประเทศจีน ร้านสาขาของแมคโดนัลด์กลับมาเปิดให้บริการเกือบทั้งหมดแล้ว และในสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุด ก็เปิดให้บริการได้ราว 99% โดยบริการไดรฟ์ธรูที่เคยทำยอดขายได้มากถึง 2 ใน 3 ของยอดขายทั้งหมดตั้งแต่ก่อนจะมีโรคระบาด มาถึงขณะนี้ก็แทบจะครองสัดส่วนรายได้เกือบทั้งหมด แต่ในบางประเทศที่มีอัตราการติดเชื้อโควิดในอัตราสูง เช่น ฝรั่งเศส อังกฤษ และอิตาลี ร้านสาขาจำนวนมากยังคงปิดอยู่

คริส เคมซินสกี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแมคโดนัลด์

ผู้บริหารของแมคโดนัลด์เปิดเผยว่า การลงทุนของบริษัทก่อนหน้านี้ที่ทุ่มลงไปกับการพัฒนาระบบสั่งซื้อทางอิเล็กทรอนิกส์ การส่งสินค้านอกสถานที่ (ระบบดิลิเวอรี่) และการพัฒนาแอพพลิเคชั่นสั่งซื้อทางโทรศัพท์มือถือ เป็นปัจจัยเสริมหนุนให้บริษัทสามารถฝ่ามรสุมวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในครั้งนี้ ปัจจุบัน แมคโดนัลด์มีร้านสาขาที่สามารถให้บริการดิลิเวอรี่ราว 25,000 สาขาในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ขณะที่ราว 20,000 สาขา สามารถรับออร์เดอร์และให้ลูกค้าชำระเงินผ่านแอพพลิเคชั่นโทรศัพท์มือถือ  

 

นอกจากนี้ ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แมคโดนัลด์ยังระดมทุนได้ 6,500 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 2.1 แสนล้านบาทผ่านการออกหุ้นกู้ ซึ่งจะทำให้บริษัทมีสภาพคล่องทางการเงินเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ แมคโดนัลด์ยังมีแผนสำรองเงินสดไว้และลดการเปิดสาขาใหม่ ๆ ในปีนี้ และเพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่าย นายคริส เคมซินสกี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแมคโดนัลด์ ยังประกาศจะลดเงินเดือนตัวเองลงครึ่งหนึ่งไปจนกระทั่งสิ้นเดือนกันยายนนี้เป็นอย่างน้อย ขณะที่ผู้บริหารระดับสูงอีก 4 คน ก็สมัครใจที่จะลดเงินเดือนลง 25% ในช่วงเวลาเดียวกัน