นายบอริส จอห์สันกล่าวว่า การผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์จะดำเนินการแบบเป็นขั้นเป็นตอนและมีเงื่อนไข โดยจะคำนึงถึงการป้องกันสาธารณะและชีวิตของประชาชนเป็นหลัก ผู้นำอังกฤษยังระบุว่า รัฐบาลจะไม่สามารถผลักดันแผนการดังกล่าวให้มีความคืบหน้ามากไปกว่านี้ หากบททดสอบ 5 ประการตามที่รัฐบาลได้กำหนดไว้ก่อนหน้านี้ ยังไม่ให้ผลเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งได้แก่
ทั้งนี้ นายจอห์นสันกล่าวว่า การยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์จะยังไม่เกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ แต่ทางรัฐบาลจะดำเนินการอย่างระมัดระวังในการปรับมาตรการต่างๆ โดยใน ขั้นตอนที่ 1 รัฐบาลจะผ่อนคลายมาตรการบางอย่าง โดยจะอนุญาตให้ประชาชนที่ไม่สามารถทำงานจากที่บ้านได้ เช่นพนักงานด้านการก่อสร้างและการผลิตนั้น สามารถกลับเข้าทำงานได้ตามปกติตั้งแต่วันจันทร์ที่ 11 พ.ค.เป็นต้นไป แต่หากเป็นไปได้ ขอให้หลีกเลี่ยงการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ
นายจอห์นสันยังระบุว่า นับตั้งแต่วันพุธที่ 13 พ.ค.เป็นต้นไป ประชาชนสามารถออกกำลังกายนอกบ้านได้อย่างเต็มที่ ซึ่งรวมถึงการออกมารับแสงแดดในสวนสาธารณะท้องถิ่น การขับรถออกไปยังสถานที่ต่างๆ และเล่นกีฬา แต่มีข้อแม้ว่า ต้องทำกิจกรรมเหล่านี้เฉพาะกับคนในครัวเรือนของตนเท่านั้น และยังต้องดำเนินการตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม
ส่วนใน ขั้นตอนที่ 2 ซึ่งอาจมีการนำมาใช้อย่างเร็วสุดภายในวันที่ 1 มิ.ย.นั้น รัฐบาลอาจจะเริ่มอนุญาตให้เปิดร้านค้า และให้เด็กๆกลับเข้าไปเรียนในโรงเรียนได้ โดยจะเริ่มจากการเปิดรับเด็กเล็กที่มีอายุระหว่าง 1-6 ปี
สำหรับใน ขั้นตอนที่ 3 ซึ่งอาจมีการนำมาใช้อย่างเร็วที่สุดภายในเดือนก.ค.นั้น ทางรัฐบาลอาจจะเริ่มอนุญาตให้เปิดธุรกิจโรงแรมบางส่วน โดยจะอยู่ภายใต้คำแนะนำของบรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์และการแพทย์ และมีการสถานที่สาธารณะ โดยจะยังคงอยู่บนเงื่อนไขของการคำนึงถึงความปลอดภัยและการเว้นระยะห่างทางสังคม
ด้านนายโดมินิก ร้าบ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษเปิดเผยเพิ่มเติมว่า รัฐบาลอังกฤษจะยังไม่อนุญาตให้ธุรกิจค้าปลีกที่ไม่ได้จำหน่ายสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวัน กลับมาเปิดทำการจนกว่าจะถึงเดือนมิ.ย. ส่วนธุรกิจประเภทอื่น ๆ จะยังไม่ได้รับอนุญาตให้กลับมาดำเนินธุรกิจจนกว่าจะถึงเดือนก.ค.เป็นอย่างเร็วที่สุด
นายร้าบกล่าวว่า ธุรกิจค้าปลีกที่ไม่ได้จำหน่ายสินค้าจำเป็นต่อการดำรงชีวิต จะยังไม่สามารถกลับมาดำเนินธุรกิจได้จนกว่าจะถึงวันที่ 1 มิ.ย. นอกจากนี้ เด็ก ๆ จะยังไม่สามารถกลับไปโรงเรียนได้จนกว่าจะถึงวันดังกล่าวเช่นกัน โดยเฉพาะเด็กนักเรียนชั้นประถม
ขณะที่ธุรกิจในภาคส่วนอื่นๆ จะยังไม่สามารถกลับมาดำเนินธุรกิจได้จนกว่าจะถึงวันที่ 4 ก.ค. เนื่องจากรัฐบาลเกรงว่าหากมีการเปิดธุรกิจดังกล่าวในเวลานี้ จะทำให้ประชาชนออกมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก และทำให้ยากต่อการรักษามาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม