•จีพีดีของสหราชอาณาจักรเดือนเม.ย.ร่วงลงหนักสุด -20.4% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า มากกว่าที่รอยเตอร์สคาดการณ์ไว้ก่อนหน้าที่จะติดลบ 18.4%
•จีพีดีร่วงลง 24.5% เมื่อเทียบเดือนเม.ย.ของปีที่แล้ว (2019) ซึ่งเป็นผลมาจากการล็อกดาวน์ จากโควิด-19 ที่ทำให้เศรษฐกิจหยุดชะงัก
•ขณะที่เงินปอนด์ของอังกฤษยังคงมีเสถียรภาพ โดยอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 1 ปอนด์ ต่อ1.2575 ดอลลาร์
รัฐบาลอังกฤษประกาศตัวเลขจีดีพีเดือนเมษายน ร่วงลงหนักสุดในประวัติศาสตร์นับตั้งแต่ที่เคยมีการเก็บสถิติมา โดยร่วงลง 20.4 % เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 18.4% และร่วงลงถึง 24.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว
โดยเป็นผลจากการปิดเมืองหรือล็อกดาวน์เพราะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลให้เกิดการหยุดชะงักทางเศรษฐกิจ
และเมื่อพิจาณาจากตัวเลขก่อนหน้าเมษายน 3 เดือน ตั้งแต่ มกราคม กุมภาพันธ์และมีนาคม หดตัวที่ 10.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 10%
รัฐบาลอังกฤษประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม ซึ่งเป็นความพยายามที่จะลดจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดให้น้อยลง ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ 12 มี.ค. มีมากถึง 292,860 คน โดยมีบางมาตรการที่เริ่มจะผ่อนคลายในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา แต่ที่เกิดผลกระทบมากที่สุดคือเศรษฐกิจในเดือนเม.ย.
“จีดีพีในไตรมาสที่1 คือไฮไลท์ ที่ได้รับผลกระทบจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์ในช่วง 2 สัปดาห์แรก แต่ของจริงคือตัวเลขในไตรมาส 2ที่จะเริ่มแสดงในเห็นช่วงแรกของเดือนนี้” เอ็ด มังก์ ที่ปรึกษาด้านการลงทุนส่วนตัวจาก เฟรดเดอร์ริตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลกล่าว
“อย่างไรก็ตาม มาตรการต่างๆเริ่มที่จะผ่อนคลายมากขึ้น ธุรกิจเริ่มกลับมาเปิดให้บริการ คาดว่าความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจที่ค่อยๆเริ่มต้นอย่างช้าๆจะทำให้เริ่มมีตัวเลขกลับมาในเดือนข้างหน้า แต่มีคำถามว่าจะมีธุรกิจที่เหลือรอดจำนวนเท่าไหร่ และสามารถจ้างงานได้มากน้อยแค่ไหน นี่ต่างหากคือคำถามที่สำคัญที่สุด”
ส่วนความเคลื่อนไหวของเงินปอนด์อังกฤษ ค่อยข้างมีเสถียรภาพหลังจากทีการประกาศตัวเลขออกมา โดยอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 1.2575 ดอลลาร์/ปอนด์