ย่างกุ้ง, 26 ก.ย. (ซินหัว) — อองซานซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐของเมียนมา เรียกร้องประชาชนหลีกเลี่ยงการรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ด้วยวิธีพื้นบ้าน แต่ให้เดินทางไปโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากกว่า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“เมียวดี” ประกาศเคอร์ฟิวหลังโควิด-19 ระบาด
"ออง ซาน ซูจี" สั่งล็อกดาวน์ย่างกุ้ง หลังโควิดระบาดหนัก
สธ.สั่ง ร.พ.ชายแดนระดมอุปกรณ์ ผวา แรงงานเถื่อนหอบโควิดเข้าไทย
"บิ๊กป้อม"สั่งคุมเข้มชายแดนพม่า ย้ำทุกจังหวัดอย่าประมาทรับมือโควิด
“เราพบว่าเมื่อประชาชนบางคนคิดว่าตนติดเชื้อ พวกเขาจะพยายามเยียวยาตัวเองด้วยวิธีพื้นบ้าน และจะไปโรงพยาบาลเฉพาะเวลาที่ไม่สามารถรักษาด้วยวิธีดังกล่าวได้สำเร็จ” ซูจีแถลงข่าวทางโทรทัศน์ เมื่อช่วงค่ำวันศุกร์ (25 ก.ย.)
ซูจี สนับสนุนให้ผู้คนไปโรงพยาบาลตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม เนื่องจากการควบคุมโรคและการรักษาจะเป็นเรื่องยากลำบาก หากผู้ป่วยถูกส่งไปโรงพยาบาลเฉพาะหลังเข้าสู่ระยะติดเชื้อ
“การที่ผู้คนพยายามรักษาตัวเองด้วยวิธีพื้นบ้านอาจเป็นผลมาจากข่าวสาวที่เผยแพร่ในโลกออนไลน์ ซึ่งการปฏิบัติตามวิธีรักษาแบบนั้นเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง เนื่องจากไม่มีผู้ใดทราบแนวทางแน่นอนในการป้องกันโรคโควิด-19”
ซูจี กล่าวว่ารัฐบาลได้จัดเตรียมโรงพยาบาลในเขตและเมืองให้พร้อมรองรับการตรวจโควิด-19 อีกทั้งร้องขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และแพทย์จากภาคเอกชน เพื่อเติมเต็มความต้องการทรัพยากรบุคคลที่โรงพยาบาลด้วย
นอกจากนั้นทางการจะแจกจ่ายชุดทดสอบไปยังโรงพยาบาลในเขตและเมือง เพื่อให้พวกเขาสามารถจัดการตรวจโรคโควิด-19 ได้อย่างเหมาะสมในเร็วๆ นี้
ทั้งนี้ ซูจี แนะนำประชาชนอย่ากังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันมากเกินไป แต่ให้มีความกังวลอย่างเพียงพอในระดับหนึ่ง ซึ่งจำเป็นต่อการตระหนักรู้ถึงผลกระทบของโรค
“ความวิตกกังวลมากเกินไปอาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายลดต่ำลง ภาวะเครียดที่เกิดจากความกังวลอาจทำให้เราสูญเสียภูมิคุ้มกันโรค และเราไม่ต้องการให้ผู้คนกังวลโดยไม่จำเป็น”
ตัวเลขล่าสุดจากกระทรวงสาธารณสุขและกีฬาระบุว่าเมียนมาตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสม 9,112 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิต 174 ราย เมื่อนับถึงคืนวันศุกร์ (25 ก.ย.)
ที่มา:สำนักข่าวซินหัว