นางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ย้ำว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐงวดใหม่ ที่จะได้รับการสนับสนุนจากสภานั้น จะต้องเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ “ฉบับรวม” ที่มีวงเงินสูง และครอบคลุมถึงการช่วยเหลือประชาชนและภาคธุรกิจอื่น ๆที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ด้วย
หลังการประกาศท่าทีดังกล่าว หุ้นสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ร่วงลง 0.3% ขณะที่อเมริกัน แอร์ไลน์ปรับตัวลง 0.5%
คำแถลงของนางเปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐซึ่งพรรคเดโมแครตเป็นฝ่ายครองเสียงข้างมาก มีขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์สั่งให้เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวระงับการเจรจากับพรรคเดโมแครตเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ แต่เรียกร้องให้สภาคองเกรสให้การอนุมัติร่างกฎหมายที่ให้ความช่วยเหลือเป็นการเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรมการบิน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"ทรัมป์"กลับลำ ทวีตพร้อมลงนามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ
ทรัมป์เล่นเกมแรง ดึงแผนกระตุ้นศก. งวดใหม่ไว้หลังเลือกตั้ง
2 แอร์ไลน์มะกันสุดอั้น เริ่มปลดพนักงาน 32000 อัตรา
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมการบินสหรัฐได้ปลดพนักงานจำนวนกว่า 3 หมื่นรายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากที่ไม่ได้รับเงินช่วยเหลืองวดใหม่จากรัฐบาลจำนวน 25,000 ล้านดอลลาร์
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสหรัฐให้เงินเยียวยางวดแรกแก่สายการบินสหรัฐที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คิดเป็นวงเงิน 25,000 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา โดยมีข้อแม้ว่า บริษัทเหล่านี้จะต้องไม่ปลดพนักงานจนถึงวันที่ 30 ก.ย. ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดข้อตกลงช่วยเหลืองวดแรก
ระหว่างนั้นผู้บริหารของสายการบินสหรัฐหลายแห่งได้เข้าพบนายมาร์ก มีโดวส์ หัวหน้าคณะทำงานประจำทำเนียบขาว เมื่อวันที่ 17 ก.ย. เพื่อขอให้รัฐบาลสหรัฐอนุมัติเงินช่วยเหลืองวดใหม่จำนวนอีก 25,000 ล้านดอลลาร์ให้แก่อุตสาหกรรมการบินก่อนที่มาตรการเดิมจะหมดอายุลง เพื่อที่จะช่วยรักษาการจ้างงานในอุตสาหกรรมดังกล่าวจนถึงเดือนมี.ค.2564 แต่กระนั้นก็ตาม รัฐบาลและสภาก็ยังไม่สามารถตกลงกันได้ ทำให้การเจรจาอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่มีความล่าช้ามาจนถึงขณะนี้
ด้านนายแลร์รี่ คุดโลว์ หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว เปิดเผยวานนี้ (8 ต.ค.)ว่า ทำเนียบขาวต้องการที่จะให้สภาคองเกรสอนุมัติกฎหมายช่วยเหลือประชาชนและภาคธุรกิจเป็นรายมาตรการออกมา ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนหน้า
โดยนายคุดโลว์ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐไม่จำเป็นต้องพึ่งพามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่เพียงฉบับเดียว "ท่านประธานาธิบดีเชื่อว่าเราควรหันไปออกกฎหมายช่วยเหลือประชาชนและภาคธุรกิจเป็นรายมาตรการ เพื่อผลักดันมาตรการที่สำคัญผ่านการอนุมัติของรัฐสภา"
ก่อนหน้านั้นในวันเดียวกัน (8 ต.ค.) ปธน.ทรัมป์ได้ทวีตข้อความระบุว่า เขาจะลงนามในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ “หลายฉบับ” ซึ่งจะเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังจากที่ก่อนหน้านี้เขาได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวระงับการเจรจากับพรรคเดโมแครตเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ จนกว่าจะผ่านพ้นการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย.
ปธน.ทรัมป์เรียกร้องให้สภาคองเกรสให้การอนุมัติมาตรการต่าง ๆที่เขาจะลงนาม ซึ่งได้แก่ การแจกเช็คเงินสดให้แก่ชาวอเมริกันคนละ 1,200 ดอลลาร์ รวมทั้งการอัดฉีดวงเงิน 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมการบิน และวงเงิน 1.35 แสนล้านดอลลาร์สำหรับธุรกิจรายย่อย