สหรัฐระงับผลิตน้ำมันกว่า 90% หลัง “เดลต้า” ถล่มอ่าวเม็กซิโก

09 ต.ค. 2563 | 02:59 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ต.ค. 2563 | 10:11 น.

สหรัฐระงับการผลิตน้ำมันกว่า 90% ในอ่าวเม็กซิโกเมื่อวานนี้ (8 ต.ค.) หลังเฮอร์ริเคน “เดลต้า” (Hurricane Delta) ซึ่งเป็นพายุระดับ 3 ได้ทวีความรุนแรงและพัดถล่มเป็นวงกว้าง คาดว่าพายุดังกล่าวจะขึ้นฝั่งมลรัฐลุยเซียนาของสหรัฐในวันศุกร์นี้ หลังพาดผ่านหลายเมืองชายฝั่งของเม็กซิโก ทำให้ถนนพังทลายและไฟฟ้าดับ กระทบหลายแสนครัวเรือน

 

พายุเฮอร์ริเคน "เดลต้า" พัดถล่มพื้นที่ใน อ่าวเม็กซิโก เป็นวงกว้าง ส่งผลให้บริษัทพลังงานที่ดำเนินงานในอ่าวเม็กซิโกต้อง ระงับการผลิตน้ำมัน มากกว่า 90% ในวันพฤหัสบดี (8 ต.ค.) และต้องมีการอพยพพนักงานออกจากแท่นขุดเจาะ รวมทั้งเริ่มแผนกู้สถานการณ์ที่โรงงานแปรรูปน้ำมันบริเวณชายฝั่ง

 

 

สำนักงานนิรภัยและการบังคับใช้สิ่งแวดล้อมของรัฐบาลกลางสหรัฐ (Bureau of Safety and Environmental Enforcement - BSEE) ระบุว่า ณ วันพฤหัสบดีที่ 8 ต.ค. อิทธิพลของพายุเฮอร์ริเคนเดลต้าส่งผลให้บริษัทพลังงานที่ดำเนินการในอ่าวเม็กซิโกระงับการผลิตน้ำมันดิบราว 91.53% และระงับการผลิตก๊าซธรรมชาติ 61.82%

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พายุเข้าสหรัฐดันราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น

รัฐเท็กซัสประกาศภาวะภัยพิบัติ พายุเฮอร์ริเคนจ่อถล่ม 

 

รายงานพยากรณ์อากาศระบุว่า พายุเฮอร์ริเคนเดลต้าได้อ่อนกำลังลงสู่ระดับ 3 ซึ่งยังถือว่ามีความรุนแรงและอันตรายขณะเคลื่อนตัวเข้าสู่รัฐลุยเซียนาด้วยความเร็วลมสูงสุด 115 ไมล์ต่อชั่วโมง (185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) และเชื่อว่าจะทำให้เกิดคลื่นพายุซัดฝั่ง (Storm Surge) สูงถึง 11 ฟุต (3.4 เมตร) เมื่อพายุดังกล่าวพัดเข้าสู่รัฐลุยเซียนาในช่วงเย็นวันนี้

สื่อท้องถิ่นรายงานว่าประชาชนในพื้นที่ที่คาดว่าพายุเฮอร์ริเคนดังกล่าวจะพาดผ่าน ได้จัดเตรียมกระสอบทรายและนำไม้กระดานตอกประกบเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับหน้าต่างบ้าน เพื่อรับมือกับพายุเฮอร์ริเคนที่ครั้งนี้นับเป็นลูกที่ 6 แล้วภายในรอบไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

สหรัฐระงับผลิตน้ำมันกว่า 90% หลัง “เดลต้า” ถล่มอ่าวเม็กซิโก

 

ข่าวระบุว่าเมื่อวันพุธและพฤหัสฯที่ผ่านมานี้ เฮอร์ริเคนเดลต้าที่พัดผ่านเมืองโคซูเมลและเมืองแคนคูน ซึ่งเป็นเมืองรีสอร์ทชายฝั่งทะเลของประเทศเม็กซิโก ได้ทำให้เกิดฝนตกหนักและสร้างความเสียหายทำให้ถนนหลายสายพังถล่ม และไฟฟ้าดับ ส่งผลกระทบต่อ 266,000 ครัวเรือน ไม่มีไฟฟ้าใช้

 

นายจอห์น เบล เอ็ดเวิร์ดส์ ผู้ว่าการรัฐลุยเซียนา เปิดเผยวานนี้ว่า ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของมลรัฐลุยเซียนาจะได้รับผลกระทบจากพายุลูกนี้มากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ ทั้ง ๆนี้ขณะนี้ ทั้งประชาชนและธุรกิจในพื้นที่ก็เพิ่งจะฟื้นฟูตัวเองจากผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคนลอร่า (Hurricane Laura) ที่เพิ่งพัดถล่มไปก่อนหน้านี้เมื่อไม่นาน  

ทั้งนี้  รัฐลุยเซียนาได้มีการสั่งอพยพประชาชน (mandatory evacuation)ในหลายพื้นที่โดยเฉพาะพื้นที่ริมน้ำและชายฝั่งทะเล นอกจากนี้ ยังมีการออกคำเตือนให้ประชาชนอพยพเองโดยสมัครใจ(voluntary evacuation)ในบางพื้นที่ด้วย

 

ลอเรน แนช เจ้าหน้าที่สำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติของสหรัฐ เปิดเผยว่า เฮอร์ริเคนเดลต้าเมื่อขึ้นสู่แผ่นดินอาจจะก่อให้เกิดฝนตกหนักและหลายพื้นที่รวมทั้งเมืองนิวออร์ลีน ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของรัฐ อาจจะต้องเผชิญกับพายุทอร์นาโดที่มีกำลังรุนแรงและอันตราย

 

ในอดีตที่ผ่านมา พายุเฮอร์ริเคนที่สร้างความเสียหายสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา คือเฮอร์ริเคนแคทรีนา (Hurricane Katrina) ทำให้เกิดความเสียหาย 108,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พายุดังกล่าวพาดผ่านฟลอริดาในขณะที่เป็นพายุเฮอร์ริเคนระดับที่ 1 ก่อนจะเพิ่มกำลังมากขึ้นในอ่าวเม็กซิโกจนกลายเป็นพายุระดับ 5 และสร้างความเสียหายมหาศาลให้แก่ชายฝั่งด้านตะวันออกของสหรัฐอเมริกา ทางตอนใต้ของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองนิวออร์ลีนส์ มลรัฐลุยเซียนา ซึ่งตามแถลงการณ์ของทางการสหรัฐในวันที่ 29 ส.ค. 2548 ระบุว่า พายุลูกนี้สร้างความเสียหายให้แก่พื้นที่ของสหรัฐประมาณ 90,000 ตารางไมล์ (233,000 ตารางกิโลเมตร) ซึ่งเป็นขนาดเทียบเท่าเกาะอังกฤษทั้งเกาะ ทำให้ประชาชนราว 5 ล้านคนไม่มีไฟฟ้าใช้ ซึ่งกว่าจะแก้ปัญหาดังกล่าวได้ ต้องใช้เวลาประมาณ 2 เดือน และแผนบรรเทาภัยพิบัติหลายแผนได้ถูกนำมาใช้ในพื้นที่ที่ประสบภัย

 

ข้อมูลอ้างอิง

Live updates: Hurricane Delta could bring "life-threatening" storm surge to Gulf Coast