สำนักข่าวต่างประเทศรายงานอ้างอิงแหล่งข่าวทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ทำเนียบขาว จะยื่นข้อเสนอครั้งใหม่แก่ พรรคเดโมแครต โดยจะเพิ่มวงเงินใน มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ สู่ระดับ 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ จากเดิมที่ระดับ 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่เป้าหมายวงเงินที่ทางเดโมแครตยื่นเสนอคือ 2.2 ล้านล้านดอลลาร์
ด้านนายแลร์รี่ คุดโลว์ หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว กล่าววานนี้ (9 ต.ค.) ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้อนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีวงเงินมากขึ้นกว่าเดิม ก่อนที่นางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ จะทำการเจรจาครั้งใหม่ เพื่อหาทางออกให้กับการเจรจามาตรการเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 3 พ.ย.
ในวันเดียวกันนั้น ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ทวีตข้อความเรียกร้องให้ตัวแทนการเจรจาจากพรรคเดโมแครตและทำเนียบขาวหาทางออกให้กับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่มีวงเงินสูง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หุ้นสายการบินสหรัฐร่วง หลังปธ.สภา ขวางอนุมัติกม.อุ้ม
"ทรัมป์"กลับลำ ทวีตพร้อมลงนามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ
ทรัมป์เล่นเกมแรง ดึงแผนกระตุ้นศก. งวดใหม่ไว้หลังเลือกตั้ง
"ขณะนี้การเจรจาเพื่อออกมาตรการเยียวยาโควิด-19 กำลังเดินหน้า ผมขอให้มีการบรรลุมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ
การทวีตข้อความของปธน.ทรัมป์มีขึ้น ท่ามกลางการเจรจาที่ชะงักงันระหว่างนางเปโลซีและนายมนูชินเกี่ยวกับวงเงินในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่เพื่อเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยพรรคเดโมแครตเสนอวงเงิน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่ทำเนียบขาวเสนอวงเงินในช่วงแรกเพียง 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ ก่อนที่ล่าสุดจะมีข่าวว่าได้เพิ่มวงเงินขึ้นเป็น 1.8 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว เพื่อให้มีโอกาสบรรลุการเจรจาได้มากขึ้น อย่างไรก็ตามหลายฝ่ายคาดหมายว่า แม้จะมีแนวโน้มที่ดีและคลี่คลายกว่าที่ผ่านมา แต่คาดว่าการผลักดันร่างกฎหมายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่น่าจะเสร็จก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดี
นายมิทช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐ กล่าวเมื่อวานนี้ (9 ต.ค.) ว่า สภาคองเกรสไม่มีแนวโน้มที่จะให้การอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 3 พ.ย. "ผมคิดว่าเราไม่สามารถดำเนินการได้ภายในเวลา 3 สัปดาห์"
ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งเนื่องจากวุฒิสภามีหลายประเด็นที่กำลังพิจารณาอยู่แล้ว ซึ่งรวมถึงการดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติของนางเอมี โคนีย์ แบร์เรตต์ ซึ่งได้รับการเสนอชื่อจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ให้ดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาศาลฎีกาสหรัฐแทนนางรูธ เบเดอร์ กินสเบิร์ก ซึ่งเสียชีวิตในเดือนที่แล้ว