สื่อต่างประเทศรายงานว่า ทีมหาเสียงของ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกันใน การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 2020 เปิดเผยวานนี้ (4 พ.ย.) ว่า ได้มีการยื่นฟ้อง ขอให้มีการออกคำสั่งยุติ การนับคะแนนเลือกตั้ง ในรัฐมิชิแกนและเพนซิลวาเนีย ซึ่งถือเป็นรัฐสมรภูมิ หรือ Battleground State ที่มีความสำคัญในการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยฝ่ายยื่นคำร้องได้ขอโอกาสในการเข้าไปสังเกตการณ์ในการนับคะแนนของหลายหน่วยเลือกตั้งในรัฐดังกล่าว รวมทั้งขอโอกาสในการเข้าไปตรวจสอบบัตรนับคะแนนในรัฐมิชิแกนที่มีการนับคะแนนไปแล้วด้วย
ส่วนในรัฐเพนซิลวาเนีย ทีมหาเสียงได้ยื่นคัดค้านเกี่ยวกับการที่รัฐดังกล่าวอนุญาตให้มีการขยายเวลารับบัตรเลือกตั้งที่ส่งมาทางไปรษณีย์และการขยายเวลาแสดงเอกสารพิสูจน์ตัวตนให้กับผู้ที่ไม่สามารถมาใช้สิทธิ์ในวันเลือกตั้ง นอกจากนี้ ยังมีการยื่นฟ้องแยกอีก 1 คดีโดยมีจุดประสงค์เพื่อขอให้ศาลยุติการนับคะแนนที่ไม่มีตัวแทนสังเกตการณ์จากพรรครีพับลิกันเข้าร่วม
ขณะที่มีการยื่นฟ้องเหล่านี้ วงในทีมทรัมป์ได้พยายามประกาศชัยชนะไปแล้วล่วงหน้าแม้ในรัฐเพนซิลวาเนียที่ซึ่งการนับคะแนนยังดำเนินอยู่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน ทีมหาเสียงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และสำนักอำนวยการพรรครีพับลิกันรัฐจอร์เจีย ยังได้ยื่นเรื่องร้องเรียน ขอให้ทุกเขตเลือกตั้ง แยกบัตรเลือกตั้งที่มาถึงหลังเส้นตายของกำหนดเวลาการหย่อนบัตรออกมาต่างหาก อย่าให้ปะปนกับบัตรเลือกตั้งที่มาถึงภายในกำหนดเวลา ซึ่งทางผู้ยื่นคำร้องเรียกว่า “บัตรเลือกตั้งที่ถูกกฎหมาย” โดยอ้างว่าผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้งของพรรครีพับลิกันเห็นพนักงานนำบัตรลงคะแนนที่ยังไม่ได้นับมาจากห้องด้านหลัง มารวมกับบัตรคะแนนที่กำลังจะนับ ซึ่งภายใต้กฎหมายของรัฐจะต้องได้รับบัตรลงคะแนนภายในเวลา 19.00 น. ของวันเลือกตั้ง จึงจะนับได้
สำหรับรัฐจอร์เจีย ซึ่งการนับคะแนนจากประชาชนผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้ง (Popular Vote) ยังคงดำเนินอยู่นี้ เป็นรัฐใหญ่ที่มีจำนวนคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral Vote) 16 คะแนน และจากการนับคะแนนเบื้องต้น ปธน.ทรัมป์ ยังเป็นฝ่ายนำอยู่ในรัฐนี้ แต่นายไบเดนก็ตามมาอย่างสูสี
ขณะที่เพนซิลวาเนียเป็นรัฐที่มีคะแนนคณะผู้เลือกตั้งถึง 20 คะแนน การนับคะแนนยังไม่จบและเท่าที่นับคะแนนไปแล้วทรัมป์ก็กำลังนำอยู่เช่นกัน แต่หากทรัมป์ได้คะแนนคณะผู้เลือกตั้งทั้งจากจอร์เจียและเพนซิลวาเนีย (รวมกันเป็น 36 คะแนน) ก็ยังไม่เพียงพอที่จะชนะไบเดนอยู่ดี เพราะไบเดนมีแนวโน้มจะชนะในรัฐเนวาดา ซึ่งขณะนี้นับคะแนนไปแล้วราว 75% และไบเดนยังมีคะแนนนำอยู่ หากไบเดนได้รับชัยชนะในรัฐเนวาดาตามคาด ก็จะได้คะแนนคณะผู้เลือกตั้งเพิ่มมาอีก 6 คะแนน รวมเป็น 270 คะแนนซึ่งเพียงพอแล้วสำหรับชนะเลือกตั้งและเป็นประธานาธิบดีคนใหม่
เจ้าหน้าที่ของรัฐเรียกร้องให้หน่วยงานการเลือกตั้งพยายามนับให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 4 พ.ย. (ตามเวลาท้องถิ่น) แต่ทั้งนี้ มีบัตรลงคะแนนที่ยังไม่ได้นับอีกเป็นจำนวนมาก จึงไม่สามารถกำหนดเส้นตายได้
อย่างไรก็ตาม จอร์เจียไม่ใช่เพียงรัฐเดียวที่ประสบปัญหาการนับคะแนนล่าช้า เพราะทางเจ้าหน้าที่ในรัฐเนวาดา ก็ออกมาเปิดเผยว่าผลการนับคะแนนอาจจะยังไม่เสร็จสมบูรณ์ก่อนวันที่ 5 พ.ย.
ด้านนายแอนดรู เบทส์ โฆษกทีมหาเสียงของนายโจ ไบเดน ออกมาตอบโต้การฟ้องคัดค้านของฝ่ายทีมทรัมป์ว่า เป็นเรื่องน่าสมเพชที่ฝ่ายปธน.ทรัมป์พยายามร้องขอให้มีการนับคะแนนใหม่ในเขตเลือกตั้งที่เขาพ่ายแพ้ไปแล้ว และขณะเดียวกันก็พยายามอย่างไร้ผลที่จะยุติการนับคะแนนในเขตเลือกตั้งที่เขาเห็นว่ากำลังจะแพ้ “นี่ไม่ใช่พฤติกรรมของผู้ชนะ พูดได้ง่าย ๆ ตรง ๆ เลยว่า โดนัลด์ ทรัมป์นั้น แพ้แล้วในวิสคอนซิน และกำลังพ่ายแพ้ในมิชิแกน เขากำลังสูญเสียเก้าอี้ประธานาธิบดี เรื่องมันก็มีเท่านี้แหละ”
เบทส์ยังเล่าย้อนอดีตว่า ในการเลือกตั้งปี 2559 ครั้งที่ทรัมป์ได้คะแนนนำและชนะเลือกตั้งในรัฐวิสคอนซินด้วยคะแนนเลือกตั้งพอ ๆกับที่ไบเดนได้มาในปีนี้ และได้ชัยชนะในรัฐมิชิแกนด้วยคะแนนน้อยกว่าไบเดนในตอนนี้ ตอนนั้นทรัมป์โวใหญ่โตว่า “นี่คือชัยชนะอย่างถล่มทลาย” และความพยายามของฝ่ายตรงข้ามที่พยายามขอให้มีการนับคะแนนเลือกตั้งใหม่เป็นความพยายามที่ “น่าเศร้า” แต่ตอนนี้ ทรัมป์กำลังทำเช่นนั้นเอง