กระทรวงการต่างประเทศเปิดเผยว่า ใน การประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 23 ที่มีขึ้นบ่ายวานนี้ (14.45 น. เวลาประเทศไทย) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำ แนวคิดหลักของความร่วมมือ คือ การพัฒนาที่มั่นคง เศรษฐกิจที่มั่งคั่ง และสังคมที่ยั่งยืน
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า อาเซียนและมิตรแท้อย่างญี่ปุ่นต้องฝ่าฟันวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน รวมทั้งสนับสนุนความร่วมมือภายใต้เอกสาร “มุมมองอาเซียนต่ออินโด-แปซิฟิก” เพื่อมุ่งสู่การพัฒนาภูมิภาคที่มั่นคง เศรษฐกิจที่มั่งคั่ง และสังคมที่ยั่งยืน ไทยขอบคุณการสนับสนุนของญี่ปุ่นทั้งในการจัดตั้งศูนย์อาเซียนด้านภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่ และกองทุนอาเซียนเพื่อรับมือกับโควิด-19 รวมทั้งการสานต่อความช่วยเหลือสามเสาของญี่ปุ่นในการรับมือกับโควิด-19
นอกจากนี้ ยังได้แสดงความยินดีกับนายกรัฐมนตรีซูกะ โยชิฮิเดะ ในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง รวมทั้งแสดงความยินดีในโอกาสการสถาปนาเจ้าชายมกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่น เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (8 พ.ย.)
“ไทยจะรับหน้าที่ประเทศผู้ประสานงานความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่น ในช่วงกลางปี 2564 ไทยมองวิกฤตโควิด-19 เป็นโอกาสในการเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ไทยสนับสนุนข้อเสนอของญี่ปุ่นในการส่งเสริมความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมภายใต้เอกสาร AOIP และร่วมรับรองแถลงการณ์ร่วมของการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 23 ว่าด้วยความร่วมมือต่อเอกสารมุมมองอาเซียนต่ออินโด-แปซิฟิก” พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอ กล่าวในช่วงหนึ่งของการประชุม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เกาะติดและอัพเดทการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 37 12-15 พ.ย.63
เปิดประชุมอาเซียนครั้งที่ 37 ไทยเสนอ 4 ประเด็นสู้วิกฤติโควิด
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มุ่งเน้น 3 เป้าหมายและสาขาความร่วมมือที่สอดคล้องกับบริบทของโลกในปัจจุบัน ได้แก่
(1) ภูมิภาคที่มั่นคง ด้วยการสร้างภูมิภาคที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างใกล้ชิด และมุ่งขยายความร่วมมือบนพื้นฐานของหลักการร่วมกัน เช่น ความเป็นแกนกลางของอาเซียน การเปิดกว้าง ความโปร่งใส การทำงานตามกฎกติกา และหลักการ 3M ได้แก่ ความไว้เนื้อเชื่อใจ การเคารพซึ่งกันและกัน และผลประโยชน์ร่วมกัน
(2) เศรษฐกิจที่มั่งคั่ง ด้วยการเสริมสร้างการบูรณาการทางเศรษฐกิจและความเชื่อมโยงของห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาค เน้นการลงทุนและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพ และยินดีต้อนรับนักลงทุนและนักธุรกิจญี่ปุ่น โดยพร้อมหารือเพื่อกำหนดมาตรการอำนวยความสะดวกในการเดินทางระหว่างประเทศที่ปลอดภัยและเป็นไปตามมาตรฐานสาธารณสุข อีกทั้งเน้นการสนับสนุน MSMEs start-ups และผู้ประกอบการท้องถิ่นให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนและพัฒนาทักษะที่จำเป็นในยุค 4IR
(3) สังคมที่ยั่งยืน นายกรัฐมนตรีได้เสนอแนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติและมุ่งหวังที่จะขยายความร่วมมือในด้านนี้อย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นประเด็นสาธารณสุข ด้วยการสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์อาเซียนด้านภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่ และพร้อมแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศของไทยแก่ประเทศสมาชิกอาเซียนและญี่ปุ่น เช่น กลไกอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน และการพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า รวมถึงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในมิติต่าง ๆ และเชิญชวนให้ใช้ประโยชน์จากศูนย์อาเซียนที่จัดตั้งในไทยด้วย
ในการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 23 นี้ ผู้นำอาเซียน-ญี่ปุ่นรับรองแถลงการณ์ร่วมของการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 23 ว่าด้วยความร่วมมือต่อเอกสารมุมมองอาเซียนต่ออินโด-แปซิฟิก รวมทั้งมีการเปิดตัวศูนย์อาเซียนด้านภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมฯ อีกด้วย