สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานการเปิดเผยของแหล่งข่าวระบุว่า นางเจเน็ต เยลเลน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้รับการพิจารณาให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐในรัฐบาลของว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งผลงานและคุณสมบัติของเธอนั้นมีความโดดเด่นท่ามกลางผู้ได้รับการเสนอชื่อคนอื่น ๆ
ทั้งนี้ นายไบเดนได้สัญญาว่าจะเลือกคณะรัฐมนตรีที่มีความหลากหลาย ซึ่งหมายความว่า เขาอาจเลือกรัฐมนตรีคลังที่เป็นคนผิวสี หรือเป็นสตรีคนแรกในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ
ปัจจุบัน นางเยลเลนทำงานให้กับสถาบันวิจัยบรูคกิ้งส์ เธอเป็นหนึ่งในกลุ่มนักเศรษฐศาสตร์ที่ได้จัดทำรายงานสรุปเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจให้กับนายไบเดนรับทราบนับตั้งแต่เดือนส.ค.ที่ผ่านมา เมื่อนายไบเดนยอมรับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ
ในสมัยของประธานาธิบดีบารัก โอบามานั้น นางเยลเลนนับเป็นสตรีคนแรกที่ได้รับเลือกเป็นประธานเฟดหนึ่งสมัย ก่อนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะแต่งตั้งนายเจอโรม พาวเวลล์ ขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนปัจจุบัน
เจเน็ต เยลเลน ได้ขึ้นเป็นประธานเฟดต่อจากนายเบน เบอร์นันเก้ ในปี 2557 ก่อนหน้านั้นเธอดำรงตำแหน่งรองประธานเฟด การรับตำแหน่งหัวเรือใหญ่ของเฟดครั้งนั้นกลายเป็นที่จับตามองของคนทั้งโลก เนื่องจากเยลเลนเป็นสตรีคนแรกในรอบ 100 ปีที่ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานเฟด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นอกเหนือจากนางเจเน็ต เยลเลน แล้ว บุคคลอื่น ๆที่ได้รับการเสนอชื่อสำหรับตำแหน่งรัฐมนตรีคลังซึ่งอยู่ในการพิจารณาของนายไบเดน ยังได้แก่ นางลาเอล เบรนาร์ด (Lael Brainard) ซึ่งปัจจุบันเป็นหนึ่งในกรรมการระดับนโยบายของระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ และเคยดำรงตำแหน่งรองรัฐมนตรีคลังฝ่ายกิจการระหว่างประเทศในยุครัฐบาลอดีตปธน.บารัก โอบามา มีผลงานการรับมือกับวิกฤตยูโรโซนและวิกฤตการเงินโลกพร้อมกันในยุคนั้นมาก่อน
อีกคนคือ นางซาราห์ บลูม แรสคิน (Sarah Bloom Raskin) อดีตคณะกรรมการระดับนโยบายของระบบธนาคารกลางสหรัฐเช่นกัน เธอเคยเป็นอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังที่เป็นสตรีคนแรกและคนเดียวที่ได้ดำรงตำแหน่งสำคัญนี้ในกระทรวงการคลังของสหรัฐ
นอกจากนี้ ยังมีชื่อของนายโรเจอร์ เฟอร์กูสัน อดีตรองประธานเฟด และนายราฟาเอล บอสติก (Raphael Bostic) ประธานระบบธนาคารกลางสหรัฐ ภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นคนผิวสีคนแรกที่ได้ดำรงตำแหน่งนี้ และยังเคยเป็นอดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเคหะและพัฒนาเขตเมืองในยุครัฐบาลปธน.บารัก โอบามา สมัยแรก
สื่อต่างประเทศรายงานว่า ไม่ว่าใครจะเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีคลังคนใหม่ของสหรัฐ เขาคนนั้น ไม่ว่าหญิงหรือชาย จะต้องพบกับโจทย์ใหญ่ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจถดถอย การว่างงาน ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ รวมทั้งปัญหาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งแตกต่างจากขุนคลังในยุคก่อนๆ ที่มักจะเน้นแก้ปัญหาความท้าทายเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก การกอบกู้ระบบการเงินอเมริกัน และการรับมือกับสงครามการค้าโลก
สิ่งที่เป็นความท้าทายสำหรับรัฐมนตรีคลังคนใหม่ ในการแก้ปัญหาภายในประเทศของสหรัฐนั้น มีตั้งแต่การตัดสินใจว่าจะคงการขาดดุลงบประมาณประเทศต่อไปหรือไม่ การตัดสินใจเรื่องการใช้งบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อช่วยเหลือธุรกิจและครัวเรือนจากผลกระทบของโควิด-19 รวมทั้งการพิจารณาการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานใหม่ในอนาคต
ส่วนประเด็นพิจารณาระดับโลกที่รัฐมนตรีคลังคนใหม่ของสหรัฐต้องเผชิญ คือการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การจัดการปัญหาการเลี่ยงภาษีของธุรกิจขนาดใหญ่ และประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศโดยเฉพาะสงครามการค้ากับจีน