สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังไม่น่าไว้วางใจ สิงคโปร์และฮ่องกง ที่มีแผนจะเริ่ม โครงการ “ทราเวิล บับเบิล” (Travel Bubble) เปิดโอกาสให้นักเดินทางระหว่างทั้งสองฝ่ายไม่ต้องเข้ากระบวนการกักตัว เดิมจะให้มีผลตั้งแต่วันที่ 22 พ.ย. สุดท้ายก็ต้องเลื่อนไปก่อนเป็นเวลา 2 สัปดาห์ โดยจะประกาศเปิดตัวโครงการครั้งใหม่กันในภายหลัง
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในฮ่องกงที่ยังสูงเกินระดับที่คาดการณ์กันไว้
นายออง เย คุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการขนส่งของสิงคโปร์เปิดเผยว่า โครงการเดินทางทางอากาศระหว่างกันแบบไม่ต้องกักตัว (Air Travel Bubble) ระหว่างสิงคโปร์และฮ่องกง จะถูกเลื่อนการเปิดตัวออกไปอีก 2 สัปดาห์ จากเดิมที่มีกำหนดจะเริ่มโครงการ Travel Bubble ดังกล่าวในวันอาทิตย์ที่ 22 พ.ย. โดยทั้งสองฝ่ายจะประกาศวันเปิดตัวโครงการครั้งใหม่ในภายหลัง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อย่าริเปิด Travel Bubble หายนะจะมาเยือน
ทำความรู้จัก "Travel Bubble "เปิดประเทศเพื่อการท่องเที่ยวอย่างจำกัด
สิงคโปร์เริ่ม Travel Bubble กับ จีน 8 มิ.ย.นี้
ในการประกาศผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว นายอองโพสต์ข้อความว่า ทั้งเขาและนายเอ็ดเวิร์ด เหยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และการพัฒนาเศรษฐกิจของฮ่องกง ได้หารือกันแล้วเกี่ยวกับโครงการ Travel Bubble ที่ทั้งสองฝ่ายตั้งใจจะทำร่วมกัน แต่เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในฮ่องกงขณะนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ตัดสินใจว่า “เป็นการดีกว่าที่จะเลื่อนการเปิดตัวโครงการดังกล่าวออกไปก่อน"
"ผมเข้าใจถึงความผิดหวังและความไม่พอใจของนักเดินทางที่วางแผนการเดินทางเอาไว้แล้ว แต่เราคิดว่า เป็นการดีกว่าที่จะเลื่อนโครงการนี้ออกไปก่อน เนื่องมาจากจุดยืนทางด้านสาธารณสุข" นายอองระบุ และยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ทางสายการบินกำลังดำเนินการติดต่อกับบรรดาผู้โดยสารที่จะได้รับผลกระทบจากการเลื่อนเปิดตัวโครงการ Travel Bubble ดังกล่าว
ทั้งนี้ ล่าสุด ฮ่องกงรายงานการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่จำนวน 43 รายเมื่อวันเสาร์ (21 พ.ย.) โดยผู้ติดเชื้อ 13 ราย เป็นผู้ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน
รายงานข่าวระบุว่า ภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลงนั้น Travel Bubble ระหว่างสิงคโปร์และฮ่องกงจะถูกสั่งระงับเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ถ้าหากจำนวนเฉลี่ยในรอบ 7 วันของผู้ติดโควิด-19 รายวันที่ไม่มีความเชื่อมโยงกันนั้น มีจำนวนมากกว่า 5 รายไม่ว่าจะในสิงคโปร์หรือในฮ่องกง โดยจะมีการแจ้งล่วงหน้า 2 วันก่อนระงับโครงการดังกล่าว
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในฮ่องกงสอดคล้องกับสิ่งที่ปลัดสาธารณสุขติงเตือนคนไทยในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ขอให้การ์ดอย่าตก หลังพบผลสำรวจคนไทยมีแนวโน้มสวมหน้ากากลดลง
นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ทั่วโลกยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาและยุโรป รวมทั้งประเทศโซนเอเชีย เช่น บังคลาเทศ มาเลเซีย ปากีสถาน ที่มีรายงานผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น สำหรับประเทศไทย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ ซึ่งทุกคนต้องเข้ากักตัวในสถานที่กักตัวที่รัฐจัดให้ และสถานที่กักตัวที่รัฐกำหนด และยังคงเข้มมาตรการเฝ้าระวังตามแนวชายแดนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามเป้าหมาย คือ ค้นพบผู้ติดเชื้อได้รวดเร็ว จำกัดวงการแพร่กระจายเชื้อ และควบคุมโรคได้ เพื่อคงสถานการณ์ให้อยู่ในระดับต่ำต่อไป
อย่างไรก็ตาม ปลัดสธ. ย้ำว่า ความร่วมมือจากประชาชนในการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อยังคงเป็นวัคซีนที่ดีที่สุด เนื่องจากพบว่าผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่มักไม่แสดงอาการหรือมีอาการเพียงเล็กน้อย หากละเลยการป้องกันตัวก็จะมีโอกาสแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้โดยไม่รู้ตัว