สื่อต่างประเทศรายงานว่า บิตคอยน์ พุ่งทะลุระดับ 19,000 ดอลลาร์เมื่อวานนี้ (24 พ.ย.) ทำสถิติสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี โดย ณ เวลา 23.08 น.ตามเวลาไทย บิตคอยน์ขยับราคาขึ้นอีก 1,202.75 ดอลลาร์ หรือ 6.59% สู่ระดับ 19,434 ดอลลาร์ ในการซื้อขายบนแพลตฟอร์มของ CoinDesk
ทั้งนี้ บิตคอยน์นับเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ทำราคาดีที่สุดในปีนี้ โดยทะยานขึ้นถึง 160% นับตั้งแต่ต้นปีมา และเฉพาะในเดือนพ.ย.นี้ ราคาของบิตคอยน์ได้พุ่งขึ้นมาแล้วเกือบ 40%
ขณะนี้มูลค่าตลาดของบิตคอยน์พุ่งแตะ 3.559 แสนล้านดอลลาร์ สูงกว่าระดับ 3.318 แสนล้านดอลลาร์ที่ทำไว้ในเดือนธ.ค.2560 ซึ่งขณะนั้นบิตคอยน์ทะยานทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 19,783 ดอลลาร์ ก่อนที่จะทรุดตัวลงสู่ระดับ 3,122 ดอลลาร์ในปีต่อมา
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์กล่าวว่า การดีดตัวของบิตคอยน์ในครั้งนี้แตกต่างจากในอดีต เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากกระแสตอบรับที่คึกคักจากกลุ่มบริษัทฟินเทค และนักลงทุนรายใหญ่ในตลาด เช่น พอล ทิวดอร์ โจนส์ และสแตนลีย์ ดรักเคนมิลเลอร์ โดยแตกต่างจากในปี 2560 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนรายย่อย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
การเงินกับโลกแห่งอนาคตที่กำลังค่อยๆ เปลี่ยนไป
สกัดขาใหญ่ฟอกเงินดิจิทัล “ปปง.-ก.ล.ต.” จับมือออกล่า
อย่าแชร์ต่อ ข่าวเท็จบิทคอยน์ อ้างชื่อเจ้าสัวธนินท์
เมื่อเดือนที่แล้ว PayPal ยักษ์ใหญ่ฟินเทค ประกาศว่า ทางบริษัทจะเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถทำการซื้อขายบิตคอยน์ และสกุลเงินคริปโตอื่น ๆ และในช่วงต้นปีหน้า PayPal มีแผนจะให้ลูกค้าใช้สกุลเงินคริปโตในการซื้อสินค้าจากเครือข่ายร้านค้าปลีกจำนวน 26 ล้านรายของทางบริษัท
ทางด้าน Square ซึ่งเป็นบริษัทฟินเทคของสหรัฐ เปิดเผยในเดือน ต.ค. ที่ผ่านมาว่า ทางบริษัทได้เข้าซื้อบิตคอยน์มูลค่าถึง 50 ล้านดอลลาร์ โดยก่อนหน้านี้ Square ได้เปิดให้บริการสกุลเงินคริปโตสำหรับลูกค้าที่ใช้แอปพลิเคชัน Cash ของทางบริษัท
นอกจากนี้ บิตคอยน์ยังได้แรงหนุนจากการที่รัฐบาลและธนาคารกลางทั่วโลกพากันออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งมาตรการดังกล่าวได้ทำให้สกุลเงินของหลายประเทศอ่อนค่าลง ซึ่งรวมทั้งดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้นักลงทุนหันมาถือครองบิตคอยน์ในฐานะสินทรัพย์ทางเลือกใหม่
นักวิเคราะห์ยังมองว่า บิตคอยน์มีสถานะเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นเดียวกับทองคำ ซึ่งนักลงทุนจะแห่เข้าซื้อในช่วงเวลาที่เกิดความตื่นตระหนก ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังใช้บิตคอยน์เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อจากการที่รัฐบาลมีแนวโน้มออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น
นายริค ไรเดอร์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนตราสารหนี้ของแบล็คร็อค ซึ่งเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ใหญ่ที่สุดในโลก กล่าวว่า ในอนาคต บิตคอยน์จะสามารถขึ้นมาทดแทนตำแหน่งของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย "ผมคิดว่าสกุลเงินคริปโตจะยังคงอยู่ต่อไป และมันจะเป็นสินทรัพย์ที่คงทน โดยบิตคอยน์เป็นเครื่องมือที่คงทนซึ่งจะสามารถขึ้นมาแทนที่ทองคำ เพราะบิตคอยน์สามารถทำหน้าที่ได้มากกว่าทองคำ" นายไรเดอร์กล่าว
ด้านนายไซมอน ปีเตอร์ส นักวิเคราะห์ของ eToro มองแนวโน้มว่า ไม่ใช่เรื่องแปลกที่บิตคอยน์จะแตะ 20,000 ดอลลาร์ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสปีนี้