เชื้อไวรัสโควิดกลายพันธุ์ ที่เริ่ม พบในอังกฤษเป็นที่แรก ก่อนที่จะกระจายไปในประเทศอื่น ๆรวมทั้งสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และหลายประเทศแถบเอเชีย ได้ก่อให้เกิดคำถามขึ้นมากมาย นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า เท่าที่มีหลักฐานในขณะนี้ การที่ผู้คนจะวิตกกังวลถึงไวรัสกลายพันธุ์เป็นเรื่องที่มีเหตุผล แต่ก็ไม่ควรตื่นตระหนกจนเกินเหตุ
ตั้งแต่ช่วงก่อนวันคริสต์มาสที่ผ่านมา มีความวิตกกังกวลมากขึ้นเมื่อนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ออกมาประกาศว่า ไวรัสกลายพันธุ์ นี้อาจระบาดได้ง่ายกว่า และรวดเร็วกว่าเดิมถึง 70% ต่อมาในวันอังคารของสัปดาห์สุดท้ายเดือนธ.ค. 2563 ทางการรัฐโคโลราโดออกมายืนยันว่า มีการตรวจพบเชื้อไวรัสใหม่นี้ และตามมาด้วยวันพุธ (30 ธ.ค.) ก็พบผู้ติดเชื้อไวรัสตัวใหม่นี้ในรัฐแคลิฟอร์เนีย
สำนักข่าวเอพี ได้ประมวลประเด็นคำถาม-คำตอบที่ผู้คนสนใจเกี่ยวกับ ไวรัสโควิดกลายพันธุ์ เอาไว้ดังนี้
ไวรัสโควิดกลายพันธุ์มาจากไหน
คำตอบ มีการพบไวรัสกลายพันธุ์แบบใหม่ๆ มาตั้งแต่ช่วงที่พบไวรัสนี้ครั้งแรกในประเทศจีนเมื่อเกือบ 1 ปีที่ผ่านมา ไวรัสมักกลายพันธุ์หรือมีพัฒนาการขึ้นเล็กน้อยขณะขยายพันธุ์และระบาดไปยังผู้คน
ดร. ฟิลิป แลนดริแกน ผู้อำนวยการโครงการอนามัยโลกของมหาวิทยาลัยบอสตัน และอดีตนักวิทยาศาสตร์ประจำศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ หรือ CDC เปิดเผยว่า การเปลี่ยนแปลงของไวรัสที่กลายพันธุ์ เป็นการเปลี่ยนแปลงตัวอักษรเพียงหนึ่งหรือสองตัวในรหัสพันธุกรรม และไม่ส่งผลเปลี่ยนแปลงต่อการก่อโรคมากนัก แต่จะน่าวิตกมากกว่า ถ้าไวรัสมีการเปลี่ยนแปลงของโปรตีนที่พื้นผิวทำให้สามารถหลบเลี่ยงยาหรือภูมิคุ้มกันได้
ไวรัสที่กลายพันธุ์รูปแบบหนึ่ง จะกลายเป็นไวรัสที่ระบาดหนักกว่าไวรัสกลายพันธุ์รูปแบบอื่นได้อย่างไร
คำตอบ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นได้ หากไวรัสกลายพันธุ์รูปแบบหนึ่งเริ่มระบาดอย่างหนักในพื้นที่ใด โดยเฉพาะหากมีการทำกิจกรรมในชุมชนที่กระตุ้นให้เกิดการระบาดมากขึ้น
เหตุการณ์ดังกล่าวยังเกิดขึ้นได้เช่นกัน หากการกลายพันธุ์ของไวรัสทำให้ไวรัสแข็งแกร่งขึ้น เช่น ทำให้ไวรัสระบาดได้ง่ายกว่าไวรัสรูปแบบอื่นที่ระบาดอยู่
นักวิทยาศาสตร์กำลังหาทางยืนยันอยู่ว่า ไวรัสรูปแบบใหม่ที่พบในอังกฤษระบาดได้ง่ายกว่าเดิมจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เริ่มมีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าไวรัสนี้ระบาดได้ง่ายขึ้น โดย ดร. แลนดริแกนอธิบายว่า ไวรัสกลายพันธุ์รูปแบบใหม่นี้เคลื่อนตัวได้เร็วกว่าไวรัสรูปแบบอื่น ทำให้ระบาดไปยังผู้คนได้ไวกว่า
องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ไวรัสกลายพันธุ์ใหม่ที่พบในอังกฤษนี้ พบครั้งแรกเมื่อเดือนก.ย.2563 นอกจากนี้ ยังพบไวรัสกลายพันธุ์อีกรูปแบบหนึ่งในแอฟริกาใต้ด้วยเช่นกัน
ไวรัสกลายพันธุ์รูปแบบใหม่ที่พบในอังกฤษน่ากังวลอย่างไร
คำตอบ ไวรัสรูปแบบใหม่นี้มีการกลายพันธุ์มากเกือบ 24 จุด โดยแปดจุดเป็นการกลายพันธุ์บนผิวโปรตีนที่ไวรัสใช้ยึดเกาะกับเซลล์มนุษย์ โดยวัคซีนและแอนติบอดีจะทำงานพุ่งเป้าไปที่ผนังโปรตีนนี้
ดร.ราวิ กุปตา ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัส ของมหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ ระบุว่า ผลการศึกษาชี้เห็นว่าไวรัสกลายพันธุ์ใหม่นี้อาจระบาดได้ง่ายกว่าไวรัสตัวเดิมที่พบในอังกฤษสองเท่า อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษาของ ดร. กุปตา ยังไม่ได้รับการทบทวนหรือตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ แม้จะถูกเผยแพร่ในเว็บไซต์ที่นักวิทยาศาสตร์ใช้เผยแพร่เรื่องพัฒนาการเกี่ยวกับไวรัสก็ตาม
ไวรัสแบบใหม่นี้ทำให้ผู้คนป่วยหนักขึ้น หรือมีโอกาสเสียชีวิตมากขึ้นหรือไม่
คำตอบ ดร. แลนดริแกนกล่าวว่า แม้จะยังไม่มีหลักฐานว่าความกังวลดังกล่าวเป็นจริง แต่ก็เป็นประเด็นที่ต้องจับตามอง โดยเราอาจได้ทราบในเร็ววันว่าไวรัสตัวนี้ทำให้คนป่วยหนักขึ้นหรือไม่ เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อไวรัสรูปแบบใหม่นี้มากขึ้น
มาเรีย แวน เคิร์กฮอฟ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดของ WHO ระบุว่า ข้อมูลเท่าที่มีอยู่ในปัจจุบันบ่งบอกว่า ไวรัสตัวใหม่ไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของอาการหรือความสาหัสของโรค
เราจะรักษาผู้ติดเชื้อไวรัสที่กลายพันธุ์ใหม่นี้อย่างไร
คำตอบ กรณีที่เกิดขึ้นในอังกฤษทำให้เกิดความกังวลว่า การกลายพันธุ์ของไวรัสอาจส่งผลต่อประสิทธิผลของยาที่ใช้สร้างแอนติบอดีเพื่อป้องกันไม่ให้ไวรัสแพร่เชื้อมายังเซลล์ร่างกาย ยังคงมีการศึกษาถึงปฏิกริยาของแอนติบอดีกับไวรัสกลายพันธุ์ใหม่นี้อยู่
บริษัทยาอีไล ลิลลี ระบุว่า ผลการทดลองในห้องปฏิบัติการแสดงให้เห็นว่า ยาของทางบริษัทยังมีประสิทธิผลต่อโรคจากไวรัสรูปแบบใหม่
วัคซีนที่มีอยู่จะได้ผลต่อไวรัสรูปแบบใหม่หรือไม่
คำตอบ นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า วัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันจะยังคงมีประสิทธิผลต่อไวรัสโควิดรูปแบบใหม่ แม้จะยังคงต้องมีการยืนยันข้อสังเกตดังกล่าวก็ตาม เมื่อวันพุธ (30 ธ.ค.) ทางการอังกฤษย้ำว่า ยังไม่มีข้อมูลที่บ่งชี้ว่าไวรัสรูปแบบใหม่ส่งผลต่อประสิทธิผลของวัคซีน
นักวิทยาศาสตร์หลายคนระบุว่า นอกจากวัคซีนจะกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ผลิตแอนติบอดีเพื่อป้องกันไวรัสเฉพาะตัวแล้ว วัคซีนยังเร่งให้เกิดการตอบสนองของภูมิคุ้มกันโดยรวมด้วย ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงคาดหวังว่าวัคซีนที่มีอยู่จะต้านไวรัสรูปแบบใหม่ได้
เราควรทำอย่างไรเพื่อลดความเสี่ยงการติดไวรัสกลายพันธุ์ใหม่
คำตอบ ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขระบุว่า เราควรทำตามคำแนะนำในการสวมหน้ากาก ล้างมือบ่อย ๆ รักษาระยะห่างทางสังคม และหลีกเลี่ยงสถานที่ ๆ มีผู้คนหนาแน่น
นายเทดรอส อาดานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ของ WHO ระบุว่า เรื่องที่สำคัญที่สุดคือ เราต้องลดการระบาดของไวรัส เนื่องจากหากเราปล่อยให้ไวรัสระบาดได้มากขึ้น ไวรัสกลายพันธุ์รูปแบบใหม่ก็จะมีได้มากขึ้นตามไปด้วย