จีดีพีเวียดนาม "ติดเทอร์โบ” อีก 15 ปีแซงไทยไม่เห็นฝุ่น

เศรษฐกิจเวียดนามติดเทอร์โบ โควิดไม่ระคาย คาดปี 2578 อีก 15 ปี จีดีพีพุ่ง 5 เท่าแซงโค้งไทยและไต้หวัน ผงาดอันดับ 19 ของโลก มั่นใจปี 64 ยังโตได้อย่างน้อย 6.5%

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ(สคต. / ทูตพาณิชย์) ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลของสื่อเวียดนามว่า ตามรายงานเศรษฐกิจของเวียดนามจะเติบโต 5 เท่า โดยกลายเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 19 ของโลกในปี 2578

ทั้งนี้ศูนย์วิจัยเศรษฐศาสตร์และธุรกิจ (CEBR) ระบุว่า ในรายงานประจำปีเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจ 193 ประเทศ ที่ประกาศเมื่อเร็ว ๆ นี้ การเติบโตอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอจะช่วยให้ภายในปี 2578 เศรษฐกิจของเวียดนามจะเติบโตแซงเศรษฐกิจของประเทศในเอเชีย เช่น ไต้หวัน และไทย ในปี 2578 ปัจจุบันประเทศเวียดนามเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจ(จีดีพี)ใหญ่เป็นอันดับที่ 37 การเติบโตของ GDP คาดว่าในช่วง 5 ปีข้างหน้าจะอยู่ที่ร้อยละ 7 ต่อปี และในทศวรรษหน้าอยู่ที่ร้อยละ 6.6

$จีดีพีเวียดนาม \"ติดเทอร์โบ” อีก 15 ปีแซงไทยไม่เห็นฝุ่น$

รายงานคาดการณ์ GDP ของเวียดนามภายในปี 2578 จะอยู่ที่ 1.59 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯฯ จากปัจจุบันอยู่ที่ 341,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเพิ่มขึ้น 5 เท่าในรอบ 15 ปี

ทั้งนี้แม้จะมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่เศรษฐกิจของเวียดนามแตกต่างจากประเทศอื่น ๆ โดยยังคงสามารถหลุดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ในปี 2563 ด้วยความสามารถในการจัดการกับวิกฤติ โดย GDP เวียดนามเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.91 ทั้งนี้รัฐบาลเวียดนามตั้งเป้าหมายการเติบโตของ GDP ที่ร้อยละ 6.5 ในปี 2564

ตาม CEBR ระบุว่า จีนจะแซงหน้าสหรัฐฯ ในฐานะประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกในปี2578 หลังจากแซงคู่แข่งในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก

$จีดีพีเวียดนาม \"ติดเทอร์โบ” อีก 15 ปีแซงไทยไม่เห็นฝุ่น$

สคต. ณ กรุงฮานอย ให้ความเห็นว่า ในปี 2563 เศรษฐกิจเวียดนามเติบโตในเชิงบวก ในขณะที่ประเทศอื่น ๆ หลายประเทศมีการเติบโตในเชิงลบ เนื่องจากเวียดนามควบคุมการการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ดี รวมถึงการลงนามในข้อตกลงทางการค้าต่าง ๆ โดยผู้เชี่ยวชาญคาดว่าในปี 2564 GDP ของเวียดนามจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการพัฒนาที่แข็งแกร่งของตลาดในประเทศและการส่งเสริมการลงทุน ภาครัฐจะเป็นแรงผลักดันให้เศรษฐกิจฟื้นตัวมากขึ้น

อนึ่ง ในปี 2562 ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ได้จัดอันดับประเทศที่มีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี)สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.สหรัฐอเมริกา มูลค่า 20,494,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 2.จีน(ไม่รวมฮ่องกงและมาเก๊า) 13,608,125 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 3.ญี่ปุ่น 4,970,916 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 4.เยอรมนี 3,996,759 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และ 5.สหราชอาณาจักร(อังกฤษ) 2,825,208 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนไทยอยู่อันดับที่ 25 มูลค่าจีดีพี 504,993 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนเวียดนามอยู่อันดับที่ 45 มูลค่าจีดีพี 244,948 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ