รัฐบาลฮ่องกงเตรียมคลายมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมหลังตรุษจีนผ่านพ้น

14 ก.พ. 2564 | 23:15 น.
อัปเดตล่าสุด :14 ก.พ. 2564 | 23:53 น.

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ทำให้รัฐบาลฮ่องกงเตรียมผ่อนคลายมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม โดยจะเริ่มหลังช่วงวันหยุดตรุษจีนนี้สำหรับธุรกิจสถานบันเทิงและร้านอาหาร

นายแมทธิว ชุง หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีฮ่องกง กล่าววานนี้ (14 ก.พ.) ว่า ฮ่องกง จะ ผ่อนคลายมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ที่บังคับใช้ใน สถานบันเทิงและร้านอาหาร ตั้งแต่วันพฤหัสบดีเป็นต้นไป ( 18 ก.พ.) โดยรัฐบาลค่อนข้างมั่นใจว่า สถานการณ์จะเป็นไปในทิศทางบวก แต่จะยังคงเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

 

ทั้งนี้ สถานประกอบการประเภทฟิตเนส ร้านเสริมสวย พิพิธภัณฑ์ และโรงภาพยนตร์ จะสามารถเปิดให้บริการได้เป็นบางส่วนภายใต้ข้อกำหนดของรัฐ ส่วนร้านอาหารจะขยายระยะเวลาให้สามารถรับประทานที่ร้านได้จนถึงเวลา 22.00 น. และอนุญาตให้สามารถนั่งได้สูงสุด 4 คนต่อ 1 โต๊ะ

 

จากเดิมนั่งได้ 2 คน/โต๊ะ ได้รับผ่อนผันเป็น 4 คน/โต๊ะ

ขณะเดียวกัน ฮ่องกงจะเพิ่มมาตรการอื่น ๆ ในการป้องกันโรค อาทิ การตรวจหาเชื้อไวรัสให้กับพนักงานทุก ๆ  2 สัปดาห์ และลูกค้าจะต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน LeaveHomeSafe หรือลงทะเบียนข้อมูลส่วนตัวก่อนใช้บริการ

 

นอกจากนี้ รัฐบาลยังเตรียมที่จะอนุญาตให้ประชาชนสามารถชุมนุมกันได้ไม่เกิน 4 คน จากเดิมที่กำหนดไว้สูงสุด 2 คน และอนุญาตให้เปิดการเรียนการสอนในโรงเรียนได้ตามระยะเวลาและจำนวนนักเรียนที่กำหนด

 

อย่างไรก็ตาม แม้สถานการณ์ของโควิด-19 จะปรับตัวดีขึ้น แต่นายชุงขอความร่วมมือให้ประชาชนยังต้องดำเนินการตามมาตรการป้องกันตัวเองอย่างเคร่งครัด ซึ่งรวมถึงการสวมหน้ากากอนามัย และการลดการชุมนุมกัน เพราะการต่อสู้กับโควิด-19 ครั้งนี้ยังไม่จบสิ้น

 

นายชุงกล่าวว่า รัฐบาลฮ่องกงยังเตรียมที่จะฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้กับประชาชน และตั้งเป้าที่จะให้บริการแก่พลเมืองฮ่องกงให้ได้มากที่สุดในปีนี้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

 

สื่อต่างประเทศรายงานในวันเดียวกันว่า ขณะที่แนวโน้มสถานการณ์ดีขึ้นในฮ่องกงจนทำให้รัฐบาลตัดสินใจค่อยๆ ผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรค แต่ที่ประเทศนิวซีแลนด์ เหตุการณ์กลับตรงข้ามกันโดยรัฐบาลจ่อยกระดับการเตือนภัยโควิด-19 หลังตรวจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 3 ราย

นางจาซินดาร์ อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์

ข่าวระบุว่า นางจาซินดาร์ อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ประกาศหลังการจัดประชุมด่วนคณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ (14 ก.พ. ) ว่านิวซีแลนด์จะยกระดับการเตือนภัยโควิด-19 โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 23.59 น. ของวันที่ 14 ก.พ.ตามเวลาท้องถิ่น ทั้งนี้ เนื่องจากมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศเพิ่มถึง 3 ราย โดยผู้ติดเชื้อใหม่ทั้ง 3 เป็นสมาชิกในครอบครัวเดียวกันประกอบด้วยพ่อ แม่ และลูกสาว ซึ่งอาศัยอยู่ทางตอนใต้ของเมืองโอ๊คแลนด์ โดยผู้เป็นแม่ทำงานบริการอยู่ที่สนามบิน และทางการอยู่ในระหว่างการสืบสวนหาสาเหตุของการติดเชื้อต่อไป

 

ส่วนการยกระดับการเตือนภัยโควิด-19 นั้น จะยกระดับการเตือนภัยสู่ระดับ 3 ในเมืองโอ๊คแลนด์ ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ส่วนเมืองอื่น ๆ จะยกระดับการเตือนภัยสู่ระดับ 2 พร้อมกันนี้ รัฐบาลได้ขอความร่วมมือให้ประชาชนในเมืองโอ๊คแลนด์กักตัวอยู่ที่บ้าน ขณะที่ซูเปอร์มาร์เก็ต ปั๊มน้ำมัน และร้านขายยาจะยังเปิดให้บริการตามปกติ

 

หลังจากนี้ รัฐบาลนิวซีแลนด์จะทบทวนระดับการเตือนภัยโควิด-19 อีกครั้งในช่วง 24 ชั่วโมงข้างหน้า