สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ(สคต.) หรือทูตพาณิชย์ ณ กรุงย่างกุ้ง สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา รายงานสถานการณ์ในเมียนมา ณ วันที่ 10 มีนาคม 2564 ว่า แบรนด์เสื้อผ้า H&M ประกาศหยุดการสั่งสินค้าจากโรงงานรับจ้างผลิตจำนวน 56 โรงงานในประเทศเมียนมาเป็นการชั่วคราวจากสถานการณ์ ความไม่สงบภายใต้รัฐบาลทหารของเมียนมา
ขณะที่บริษัทต่างชาติของชาติตะวันตกและชาติพันธมิตรในเมียนมา เช่น บริษัทของสหรัฐฯ บริษัทในกลุ่มสหภาพยุโรป และบริษัทของเกาหลีใต้ มีแผนการที่จะให้พนักงานของบริษัทย้ายสถานที่ทำงานจากเมียนมาไปยังประเทศอื่น เช่น ประเทศไทย หรือประเทศสิงคโปร์ เพื่อความปลอดภัย จนกว่าสถานการณ์ในเมียนมาจะคลี่คลายลง
Committee Representing Pyidaungsu Hluttaw (CRPH) ซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยกลุ่มสมาชิกรัฐสภาที่ชนะการเลือกตั้งซึ่งจัดตั้งรัฐบาลซ้อนกับรัฐบาลทหารของเมียนมา ได้ออกประกาศแต่งตั้งให้ Mr. Mahn Win Khaing Than เป็นรักษาการรองประธานาธิบดี
สำหรับความตึงเครียดจากการที่ประเทศชาติตะวันตกและชาติพันธมิตรได้ออกมาประณามการใช้ความรุนแรงในการปราบปรามกลุ่มผู้ ประท้วง ที่ล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 8 มีนาคม 2564 สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯและสถานเอกอัครราชทูตแคนาดา ณ กรุงย่างกุ้งได้ออกประกาศให้ตำรวจและทหารหยุดการปิดล้อมกลุ่มผู้ประท้วงที่ติดค้างอยู่ในเขตซานชางให้สามารถออกจากพื้นที่เพื่อกลับบ้านได้ ทำให้บริษัทต่างชาติของชาติตะวันตกและชาติพันธมิตรในเมียนมาเริ่มทยอยประกาศทบทวนแผนในการหยุดชะลอ หรือเลื่อนการทำธุรกิจในเมียนมาออกมา เรื่อย ๆ
สคต. ณ กรุงย่างกุ้งระบุว่า การที่บริษัทต่างชาติของประเทศชาติตะวันตกและชาติ พันธมิตรเริ่มหยุด ชะลอ หรือเลื่อนการทำธุรกิจในประเทศเมียนมานี้ จะส่งผลทำให้ประเทศเมียนมาต้องหันมาพึ่งพาตนเอง รวมถึงหันมาพึ่งพาการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น จีน อินเดีย และไทยมากยิ่งขึ้นในอนาคต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
“เมียนมา”ปลดล็อก 72 สินค้าเฮ ไม่ต้องขอใบอนุญาตนำเข้า
“เมียนมา” ยกระดับอารยะขัดขืน สหภาพนัดหยุดงานทั่วประเทศ หยุดเศรษฐกิจ-หยุดเผด็จการ
ด่วน! รัฐบาลเพิ่มเที่ยวบิน เร่งอพยพคนไทยออกจากเมียนมา วันที่ 12 และ 16 มีนาคมนี้