กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลก จะขยายตัว 6% ในปีนี้ (2564) ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นจากที่เคยคาดการณ์เอาไว้เมื่อเดือนม.ค. ที่ว่าจะขยายตัวที่ระดับ 5.5% โดยได้รับปัจจัยหนุนจาก โครงการฉีดวัคซีน ในหลายๆ ประเทศทั่วโลก
อย่างไรก็ดี IMF ยังเตือนว่าความท้าทายยังคงมีอยู่ เนื่องจากแต่ละประเทศมีความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนไม่เท่ากัน
นอกจากนี้ IMF ยังปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจปีหน้า ( 2565) ด้วย โดยคาดว่าเศรษฐกิจปีหน้าจะขยายตัว 4.4% เพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดไว้ว่าจะขยายตัว 4.2%
IMF ยังเปิดเผยในรายงานประเมินเสถียรภาพการเงินที่เผยแพร่เมื่อวานนี้ (6 เม.ย.) ด้วยว่า ตลาดหุ้นสหรัฐน่าจะยังคงมีการซื้อขายอย่างคึกคักในอนาคตอันใกล้ไปจนถึงระยะกลาง โดยได้แรงหนุนจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจและภาวะการเงินที่เอื้ออำนวย แม้มีความกังวลว่าตลาดอาจจะมีมูลค่าแพงเกินจริง
ความคิดเห็นดังกล่าวมีขึ้นหลังดัชนีดาวโจนส์และ S&P500 ปิดตลาดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อคืนก่อนหน้า (5 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานและภาคบริการที่แข็งแกร่งของสหรัฐ
ในช่วงไม่กี่วันนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐอเมริกา ประกาศแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงินกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างงานจำนวนหลายล้านตำแหน่ง
นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในวงกว้าง โดยข้อมูลล่าสุดบ่งชี้ว่า สหรัฐสามารถฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ประชาชนเฉลี่ยมากกว่า 3 ล้านคน/วันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
รายงานประเมินเสถียรภาพการเงินของ IMF ยังตั้งข้อสังเกตในเชิงเตือนว่า ตลาดหุ้นกำลังเทรดเหนือระดับพื้นฐาน ซึ่งก่อให้เกิดความกังวลว่าตลาดอาจแบกรับความเสี่ยงมากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคเทคโนโลยี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สหรัฐจับมือ G20 ใช้ภาษีอัตราต่ำดึงดูดการลงทุนจากทั่วโลก
5 เรื่องต้องติดตามกับเศรษฐกิจโลกครึ่งปีหลัง
ซิตี้แบงก์ คาดเศรษฐกิจโลก ครึ่งหลังปี 63 ติดลบ 3.5%