ผลสำรวจจากบริษัทวิจัยตลาดและข้อมูลยูโกฟ (YouGov) ร่วมกับนิตยสารดิ อิโคโนมิสต์ (The Economist) พบชาวอเมริกันเชื่อมั่นความปลอดภัยของวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน (Johnson & Johnson) ลดลง 15 จุด หลังจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (CDC) และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ (FDA) แนะนำให้ระงับใช้ชั่วคราวเนื่องจากเกิดกรณีภาวะลิ่มเลือดอุดตัน
สำนักข่าวซินหัวรายงานอีกว่า ผลสำรวจเปิดเผยว่าหมู่ผู้ใหญ่ที่เชื่อมั่นว่าวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน 1 โดสปลอดภัยลดลงจากร้อยละ 52 สู่ร้อยละ 37 หลังจากมีการประกาศระงับใช้เมื่อวันอังคาร 13 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยผู้ตอบแบบสำรวจที่รู้สึกว่าวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน "ไม่ปลอดภัย" เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 26 เป็นร้อยละ 39
ขณะที่ชาวอเมริกันให้ความไว้วางใจในวัคซีนอีกสองตัวได้รับการรับรองในสหรัฐฯ โดยร้อยละ 59 คิดว่าวัคซีนของโมเดอร์นา (Moderna) ปลอดภัย และร้อยละ 58 เชื่อมั่นความปลอดภัยของวัคซีนจากไฟเซอร์ (Pfizer)
ทั้งนี้ เมื่อวันอังคาร (13 เม.ย.) ศูนย์ฯ และสำนักฯ ร่วมแนะนำให้ระงับการใช้วัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันหลังจากผู้เข้ารับวัคซีน 6 ราย เผชิญภาวะลิ่มเลือดอุดต้นที่เกิดขึ้นได้ยาก โดยมีการตรวจพบภาวะหลอดเลือดดำในสมองอุดตัน ซึ่งเป็นภาวะลิ่มเลือดอุดดันชนิดหนึ่ง ร่วมกับภาวะเกล็ดเลือดต่ำในผู้ป่วยกลุ่มดังกล่าว ซึ่งเป็นผู้หญิงอาย 18-48 ปี และอาการปรากฎขึ้นใน 6-13 วัน หลังจากฉีดวัคซีน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สหรัฐระงับฉีดวัคซีนจอห์นสันฯ หลังพบกรณีลิ่มเลือดอุดตัน
อียูเร่งตรวจสอบวัคซีนของจอห์นสันฯ หลังพบกรณี "ลิ่มเลือดอุดตัน"
พบผู้มีภาวะ "ลิ่มเลือดอุดตัน" 4 รายหลังฉีดวัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน
WHO ชี้วัคซีนแอสตร้าเซนนาก้าอาจมีส่วนทำให้เกิดลิ่มเลือดอุดตัน