ควันหลงบอลยูโร WHO หวั่นผู้ติดเชื้อโควิดพุ่งหลังปิดเกม
องค์การอนามัยโลกหวั่นยอดติดเชื้อโควิดพุ่งหลังศึกบอลยูโร 2020 พบผู้เข้าชมในสนามไม่สวมหน้ากากอนามัย-ไม่เว้นระยะห่าง ด้าน "บอริส จอห์นสัน" เตรียมประกาศผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์อย่างเป็นทางการ
แพทย์หญิงมาเรีย ฟาน เคิร์กโฮฟ หัวหน้าแผนกโรคโควิด-19 ของ องค์การอนามัยโลก (WHO) แสดงความผิดหวังต่อการที่ อังกฤษ เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศศึกฟุตบอลยูโร 2020 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (11 ก.ค.) ซึ่งเธอเห็นว่า “ไม่ได้ใช้” มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ ไวรัสโควิด-19
"จะให้ดิฉันสนุกกับการดูแมตช์ฟุตบอลที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ต่อหน้าต่อตาได้อย่างไร" ข้อความในทวิตเตอร์เมื่อวานนี้ (12 ก.ค.) ของแพทย์หญิงฟาน เคิร์กโฮฟ ระบุ
แพทย์หญิงฟาน เคิร์กโฮฟ ยังบรรยายว่าภาพของแฟนบอลที่แออัดกันในสนามเวมบลีย์ถือเป็นเรื่อง "หายนะ"
ทั้งนี้ แฟนบอลชาวอังกฤษและอิตาเลียนราว 60,000 คนได้แห่กันเข้าชมการแข่งขันวานนี้ที่สนามเวมบลีย์ ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย และไม่มีการรักษาระยะห่างทางสังคม อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ทางการอังกฤษได้ประกาศชัดเจนว่า ผู้เข้าชมการแข่งขันบอลยูโรในสนามเวมบลีย์ ถ้ามีแต่ตั๋ว ก็ยังไม่สามารถเข้าชมได้ เพราะพวกเขาต้องมีหลักฐานยืนยันไม่ว่าจะเป็นเอกสารกระดาษหรือเอกสารดิจิทัล ระบุว่าพวกเขาได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบถ้วนแล้ว จึงจะสามารถเข้าสนามได้
กฎเกณฑ์การเข้าชมฟุตบอลในสนามตามที่ระบุไว้บนเว็บไซต์ทางการของยูฟ่า
แพทย์หญิงฟาน เคิร์กโฮฟแสดงความวิตกว่าการแข่งขันเมื่อวันอาทิตย์จะทำให้ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาแพร่ระบาดรวดเร็วขึ้น
ขณะที่ฝั่งนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีของอังกฤษเอง ออกมากล่าวยืนยันว่า อังกฤษได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันอย่างระมัดระวัง และมีการควบคุมเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ผู้นำอังกฤษยังเตรียมประกาศยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค.นี้ แม้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงพุ่งขึ้นก็ตาม โดยสื่อระบุว่า นายจอห์นสันเตรียมประกาศการตัดสินใจขั้นสุดท้ายในวันนี้ (13 ก.ค.) เกี่ยวกับการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ โดยคาดว่าเขาจะประกาศยกเลิกคำสั่งให้มีการสวมหน้ากากอนามัยและเว้นระยะห่างทางสังคม รวมทั้งยกเลิกคำแนะนำที่ให้ประชาชนทำงานที่บ้านด้วย
ด้านนักวิเคราะห์เตือนว่านายจอห์นสันเคยยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์มาแล้วครั้งหนึ่งในปีที่ผ่านมา (2563) แต่ก็ต้องกลับมาบังคับใช้ใหม่ หลังเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่
ทั้งนี้ รัฐบาลอังกฤษให้เหตุผลสำหรับแนวโน้มที่จะยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ว่า ถึงแม้จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงพุ่งขึ้น แต่จำนวนผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 นั้น ถือว่ายังคงอยู่ภายใต้ภาวะที่สามารถควบคุมได้