“พาวเวลล์” แถลงนโยบายครึ่งปี ย้ำเฟดเดินหน้าทำ QE ไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย
นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (เฟด) กล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรส พร้อมส่งสัญญาณเฟดจะยังไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย แม้เงินเฟ้อจะขยับสูงขึ้นบ้างแล้วก็ตาม ย้ำการฟื้นตัวยังห่างไกลเป้าหมาย
นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธาน เฟด กล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ (14 ก.ค.) เวลา 12.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับ 23.00 น.ตามเวลาไทย ก่อนที่จะกล่าวต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันพฤหัสฯ (15 ก.ค.) เวลา 09.30 น.ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐ หรือคืนนี้ 20.30 น.ตามเวลาไทย
เนื้อหาในแถลงการณ์ของนายพาวเวลล์ในวันแรก ส่วนใหญ่เป็นไปตามที่สื่อได้รายงานก่อนหน้านี้ โดยเขาส่งสัญญาณว่า เฟดจะยังคงเดินหน้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และจะยังไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้อัตราเงินเฟ้อจะพุ่งขึ้นในขณะนี้
ประธานเฟดระบุว่า แม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีการฟื้นตัวขึ้น แต่ตลาดแรงงานยังคงปรับตัวต่ำกว่าระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ เศรษฐกิจสหรัฐยังคงห่างไกลจากเป้าหมายของเฟดที่กำหนดให้เศรษฐกิจมีการจ้างงานเต็มศักยภาพ พร้อมกับการรักษาเสถียรภาพของราคา
สำหรับในประเด็นเงินเฟ้อ นายพาวเวลล์กล่าวว่า เงินเฟ้อได้พุ่งขึ้นในระยะนี้จากปัจจัยชั่วคราวจากการที่มลรัฐต่าง ๆ เริ่มทำการเปิดเศรษฐกิจ และ เงินเฟ้อก็มีแนวโน้มที่จะดีดตัวขึ้นในช่วงหลายเดือนข้างหน้า ก่อนที่จะปรับตัวลงเมื่อสถานการณ์ต่างๆกลับสู่ภาวะปกติ
“เฟดจะใช้นโยบายการเงินในการสนับสนุนเศรษฐกิจสหรัฐจนกว่าจะมีการฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ ซึ่งการที่เฟดจะลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE จากระดับ 120,000 ล้านดอลลาร์/เดือน จะยังไม่เกิดขึ้นในเร็วๆนี้” แถลงการณ์ตอนหนึ่งระบุ
อย่างไรก็ดี นายพาวเวลล์ไม่ได้กล่าวถึงความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐแต่อย่างใด เขาเพียงแต่ระบุว่า เฟดคาดการณ์ว่าตลาดแรงงานจะปรับตัวอย่างแข็งแกร่งเมื่อเวลาผ่านไป โดยได้แรงหนุนจากสภาวะด้านสาธารณสุขของสหรัฐที่ปรับตัวดีขึ้น