เวียดนามจ่อขึ้นแท่นฮับผลิตวัคซีน mRNA และ Sputnik V ในอาเซียน

22 ก.ค. 2564 | 18:49 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ก.ค. 2564 | 07:00 น.

เวียดนามเร่งเจรจาสหรัฐ ทาบทามให้เข้ามาตั้งฐานการผลิตวัคซีนชนิด mRNA ปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า พร้อมรับมอบวัคซีนบริจาค "โมเดอร์นา" 25 ก.ค.นี้ ขณะที่โครงการจับมือรัสเซียผลิตวัคซีน "สปุตนิก วี"รุ่นทดลองในเวียดนามก็คืบหน้า ส่อแววเป็นศูนย์กลางการผลิตวัคซีนในอาเซียน

กระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม แถลงวานนี้ (22 ก.ค.) ว่า เวียดนาม กำลังเจรจากับ สหรัฐอเมริกา เพื่อให้มีการผลิต วัคซีนต้านโควิด-19 ชนิด mRNA ในเวียดนาม โดยการผลิตวัคซีนดังกล่าวจะเริ่มขึ้นในไตรมาส 4 ของปีนี้ หรือช่วงต้นปีหน้า (2565)

 

ข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้เวียดนามสามารถผลิตวัคซีน mRNA ด้วยกำลังการผลิต 100-200 ล้านโดสต่อปี

 

อย่างไรก็ดี กระทรวงไม่ได้เปิดเผยว่า เวียดนามกำลังเจรจากับบริษัทใดในสหรัฐ แต่เป็นที่รู้กันว่า บริษัทสหรัฐที่ผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 โดยใช้เทคโนโลยี mRNA นั้นได้แก่ บริษัทไฟเซอร์ และโมเดอร์นา

 

ก่อนหน้านี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้เคยเปิดเผยเมื่อเดือนพ.ค.ว่า WHO กำลังพิจารณาข้อเสนอของบริษัทเวียดนามแห่งหนึ่งในการเป็นศูนย์กลางการผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 ซึ่งใช้เทคโนโลยี mRNA

เวียดนามจ่อขึ้นแท่นฮับผลิตวัคซีน mRNA และ Sputnik V ในอาเซียน

ความคืบหน้าในการผลิต “สปุตนิก วี”

ขณะเดียวกัน VABIOTECH ซึ่งเป็นบริษัทยาของเวียดนาม และ RDIF ซึ่งเป็นกองทุนบริหารความมั่งคั่งของรัสเซีย และเป็นผู้ให้การสนับสนุนการผลิตวัคซีนสปุตนิก วี (Sputnik V) ซึ่งเป็นวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของรัสเซีย ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันเมื่อวันที่ 21 ก.ค.ว่า เวียดนามสามารถผลิตวัคซีน Sputnik V รุ่นทดลองได้แล้ว

 

ทั้งนี้ ตัวอย่างวัคซีนดังกล่าวจะถูกส่งไปยังสถาบันกามาเลยาของรัสเซียซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำการวิจัยและพัฒนาวัคซีนสปุตนิก วี เพื่อให้ทำการตรวจสอบคุณภาพ

 

นายคิริล ดมิเทรียฟ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ RDIF ระบุในแถลงการณ์ว่า RDIF และ VABIOTECH กำลังร่วมมือกันในการถ่ายโอนเทคโนโลยีในการผลิตวัคซีนเพื่อให้ชาวเวียดนามสามารถเข้าถึงวัคซีนสปุตนิก วี ได้

 

ก่อนหน้านี้ กระทรวงสาธารณสุขเวียดนามเคยแถลงว่า VABIOTECH จะทำการบรรจุขวดและบรรจุภัณฑ์ให้กับวัคซีนสปุตนิก วี โดยสามารถเริ่มได้ตั้งแต่เดือนก.ค.นี้ ด้วยกำลังการผลิต 5 ล้านโดสต่อเดือน

 

นอกจากนี้ รัฐบาลเวียดนามยังได้อนุมัติให้ T&T ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนของเวียดนาม ทำการเจรจาเพื่อซื้อวัคซีนสปุตนิก วี จำนวน 40 ล้านโดส

 

วัคซีนดังกล่าว (Sputnik V) มีการผลิตโดยใช้เทคโนโลยีไวรัล เวคเตอร์ (viral vectors) และเป็นหนึ่งในวัคซีนที่มีราคาถูกที่สุดในโลก โดยมีราคาไม่ถึง 10 ดอลลาร์ต่อโดส และสามารถเก็บรักษาในอุณหภูมิตู้เย็นทั่วไปที่ระดับ 2-8 องศาเซลเซียส

เวียดนามจ่อขึ้นแท่นฮับผลิตวัคซีน mRNA และ Sputnik V ในอาเซียน

เตรียมรับมอบวัคซีนบริจาค “โมเดอร์นา” 3 ล้านโดสจากสหรัฐ

ทางด้านทำเนียบขาวแถลงวานนี้ (22 ก.ค.) ว่า รัฐบาลสหรัฐจะบริจาควัคซีนต้านโควิด-19 ของบริษัทโมเดอร์นาจำนวน 3 ล้านโดสให้แก่เวียดนาม โดยจะส่งถึงในวันที่ 25 ก.ค.นี้ เพื่อใช้รับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่

 

วัคซีนดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของวัคซีนที่สหรัฐบริจาคให้แก่ โครงการ COVAX ของ องค์การอนามัยโลก (WHO) และจะทำให้เวียดนามได้รับวัคซีนที่มีการบริจาคจากสหรัฐจำนวนรวมทั้งสิ้น 5 ล้านโดส

 

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดนประกาศว่า สหรัฐจะบริจาควัคซีนต้านโควิด-19 จำนวน 80 ล้านโดสให้แก่ประเทศต่างๆทั่วโลก นอกจากนี้ สหรัฐยังเตรียมซื้อวัคซีนไฟเซอร์จำนวน 500 ล้านโดสเพื่อบริจาคแก่ประเทศในแอฟริกา รวมทั้งประเทศยากจนที่มีรายได้ต่ำและปานกลางจำนวน 92 ประเทศทั่วโลก

 

จนถึงขณะนี้ เวียดนามได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 รวมแล้วมากกว่า 10.6 ล้านโดส โดยเป็นวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าจำนวน 7.1 ล้านโดส, โมเดอร์นา 2 ล้านโดส และไฟเซอร์ 194,200 โดส

 

ขณะเดียวกัน เวียดนามได้ลงนามในสัญญาซื้อวัคซีนเพิ่มเติมอีก 105 ล้านโดส และกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาซื้ออีก 70 ล้านโดส ทำให้เวียดนามจะได้รับวัคซีนอีกรวม 175 ล้านโดสในปีนี้และต้นปีหน้า (2565)