ดร.อาซิช จา คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ของมหาวิทยาลัยบราวน์ในสหรัฐอเมริกา เตือนว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในสหรัฐ อาจจะทะยานขึ้นอีกครั้งจนแตะระดับมากกว่า 1,000 รายต่อวัน โดยเขาคาดการณ์ว่า จะได้เห็นจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิดเพิ่มสูงขึ้นในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า และเชื่อว่า รัฐที่มีอัตราการแพร่ระบาดสูง อย่างฟลอริดาและหลุยเซียนาจะมีผู้เสียชีวิตแตะระดับสูงสุด ก่อนจะที่ค่อยๆ ลดระดับลงมา
การแพร่ระบาดของ เชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลต้า ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตในสหรัฐ ทะยานขึ้นจนถึงระดับของช่วงที่มีการระบาดหนักสุดในเดือนก.พ. และส่งผลให้มีจำนวนผู้ป่วยล้นโรงพยาบาล โดยในขณะนี้สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวันอยู่ที่ราว 147,000 ราย
ดร.จากล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐได้อนุมัติให้ใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จากบริษัทไฟเซอร์-บิออนเทคอย่างเต็มรูปแบบแล้ว ซึ่งนั่นจะช่วยจูงใจให้มีผู้มาเข้ารับการฉีดวัคซีนมากพอที่จะสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลต้า
"ผมคิดว่ามันจะสร้างความแตกต่างอย่างมาก เพราะผมมองว่ามีบางคนที่รอการอนุมัติอย่างเต็มรูปแบบนี้ และสำหรับพวกเขา ผมคิดว่าสิ่งนี้จะช่วยได้" ดร.จากล่าว และว่า ในกลุ่มผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนประมาณ 2 ใน 3 ระบุว่า พวกเขาจะยอมฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 หากรัฐมีคำสั่งออกมา ดังนั้น จึงเชื่อว่าหลังจากนี้ จะได้เห็นคนเริ่มมาเข้ารับการฉีดวัคซีนกันจำนวนมากขึ้น
ขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมสหรัฐเตรียมออกแนวทางการปฏิบัติฉบับใหม่ให้เจ้าหน้าที่ของกระทรวงกลาโหมทุกคนเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 หลังจากที่ FDA อนุมัติให้ใช้วัคซีนจากบริษัทไฟเซอร์-บิออนเทคอย่างเต็มรูปแบบ (full approval) เมื่อวานนี้ (23 ส.ค.) ขณะที่นิวยอร์กซิตี้ได้กำหนดให้คณาจารย์และเจ้าหน้าที่ในโรงเรียนของรัฐทั้งหมดกว่า 148,000 คนเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างน้อย 1 โดสในฤดูใบไม้ร่วงนี้