สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การจัดส่ง วัคซีนโควิดชุดแรกที่ผลิตในจีน นี้ เป็นส่วนหนึ่งของ โครงการโคแวกซ์ (COVAX) ซึ่งโครงการในภาพรวมนั้นล่าช้ากว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ในปีนี้ถึง 2,000 ล้านโดส สืบเนื่องจากข้อจำกัดด้านปริมาณวัคซีน และการควบคุมการส่งออกของประเทศผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ คืออินเดีย
วัคซีนของซิโนฟาร์ม และ ซิโนแวค คือส่วนหนึ่งของ "การทูตวัคซีน" ของรัฐบาลจีน แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับประสิทธิผลของวัคซีนจีนทั้งสองยี่ห้อนี้จนหลายประเทศปฏิเสธไม่ยอมรับ หรือมีการนำไปฉีดไขว้กับวัคซีนของชาติตะวันตกเพื่อเพิ่มประสิทธิผลของวัคซีนดังกล่าว แต่การที่องค์การอนามัยโลกให้การรับรอง-อนุมัติการใช้วัคซีนซิโนฟาร์มและซิโนแวค อีกทั้งยังให้วัคซีนทั้งสองเป็นส่วนหนึ่งของ โครงการโคแวกซ์ (COVAX) ที่มุ่งจัดหาวัคซีนต้านโควิด-19 มอบให้แก่ประเทศกำลังพัฒนาทั่วโลกอย่างเท่าเทียม ก็ดูจะเป็นการรับรองวัคซีนจีนทั้งสองยี่ห้อว่า ทั้งความปลอดภัยและประสิทธิผลนั้น ได้มาตรฐานเป็นที่รับรองของ WHO แล้วอย่างแน่นอน
เอกสารของ WHO ที่เปิดเผยโดยรอยเตอร์ ระบุว่า ในจำนวนวัคซีน 100 ล้านโดสที่เตรียมจัดส่งนี้ เป็นวัคซีนของซิโนฟาร์มและซิโนแวคอย่างละครึ่ง โดยกำหนดไว้ว่าจะแจกจ่ายระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน
โฆษกของ องค์กรพันธมิตรระหว่างประเทศว่าด้วยวัคซีนและการสร้างภูมิคุ้มกัน หรือ Global Alliance for Vaccines and Immunization (GAVI) ซึ่งเป็นผู้นำของโครงการโคแวกซ์ ร่วมกับ WHO กล่าวกับรอยเตอร์ว่า ได้มีการจัดส่งวัคซีนของซิโนฟาร์มไปแล้ว 10 ล้านโดสเมื่อช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
รายงานข่าวระบุว่า จนถึงขณะนี้ วัคซีนโควิดที่ผลิตในจีนได้แจกจ่ายไปแล้วใน 60 ประเทศทั่วโลก โดยส่วนใหญ่เป็นประเทศในแอฟริกาและเอเชีย
อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าประเทศกำลังพัฒนาหรือประเทศผู้รับการบริจาคทุกประเทศจะยอมรับวัคซีนของจีน
แอฟริกาใต้ คือหนึ่งในประเทศในทวีปแอฟริกาที่จะได้รับวัคซีนของซิโนแวคมากที่สุดที่จำนวน 2.5 ล้านโดส แต่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับสูงกล่าวกับรอยเตอร์ว่า ขณะนี้แอฟริกาใต้ไม่สามารถยอมรับวัคซีนของซิโนแวคได้ เนื่องจากไม่มีข้อมูลเพียงพอเกี่ยวกับประสิทธิผลของวัคซีนซิโนแวคต่อเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาซึ่งเป็นไวรัสกลายพันธุ์ รวมทั้งไม่มีข้อมูลประสิทธิผลของวัคซีนสำหรับประชากรกลุ่มที่ติดเชื้อเอชไอวี
ส่วน ไนจีเรีย ซึ่งเป็นประเทศที่รับวัคซีนจากซิโนฟาร์มเกือบ 8 ล้านโดสภายใต้โครงการโคแวกซ์ เป็นหนึ่งในประเทศที่ให้การรับรองวัคซีนต้านโควิดของจีน โดยระบุให้เป็นหนึ่งในวัคซีนทางเลือกสำหรับประชาชนไนจีเรีย ขณะที่ เคนยา รวันดา โตโก และโซมาเลีย ล้วนยืนยันว่าไม่มีความกังวลใด ๆ ต่อวัคซีนที่ผลิตจากประเทศจีน
ในภูมิภาคเอเชีย คาดว่าหลายประเทศจะได้รับวัคซีนที่ผลิตในจีนเป็นจำนวนมากกว่า 25 ล้านโดส โดยในจำนวนนี้เกือบ 11 ล้านโดสจะส่งให้กับ “อินโดนีเซีย” ซึ่งเป็นประเทศที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดในอาเซียน และเป็นประเทศที่ได้รับวัคซีนของจีนผ่านโครงการโคแวกซ์มากที่สุดด้วย
ก่อนหน้านี้ อินโดนีเซียตัดสินใจฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกัน (วัคซีนเข็มที่ 3) โดยใช้วัคซีนของบริษัทโมเดอร์นา (Moderna) ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ หลังจากที่ส่วนใหญ่ของคนกลุ่มนี้ได้รับวัคซีนซิโนแวคไปแล้วครบโดส คือสองเข็ม เช่นเดียวกับหลายประเทศ เช่น บราซิล ชิลี และไทย ที่ใช้วิธีฉีดไขว้วัคซีนของจีน กับวัคซีนของชาติตะวันตก เพื่อกระตุ้นภูมิต้านทานโควิดสายพันธุ์ใหม่ให้แก่บรรดาบุคลากรการแพทย์เช่นกัน