ทั่วโลกจับตาภาระหนี้ บริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ( Evergrande) ที่ครบกำหนดจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ 2 งวดในเดือนกันยายนนี้ ว่าจะผิดนัดชำระหนี้หรือไม่ และหากบริษัทล้มละลายจะส่งผลกระทบในวงกว้างอย่างไร
เอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้งส์ (S&P) คาดการณ์ว่า Evergrande บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อันดับสองของจีน มีแนวโน้มที่จะผิดนัดชำระหนี้การจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ที่ครบกำหนดในเดือนนี้และเชื่อว่ารัฐบาลจีนจะไม่ให้การสนับสนุนโดยตรงแก่เอเวอร์แกรนด์
S&P ระบุว่า "เราเชื่อว่ารัฐบาลจีนจะถูกบีบให้ยื่นมือเข้ามา หากการผิดนัดชำระหนี้ของเอเวอร์แกรนด์ส่งผลให้บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อีกหลายรายต้องล้มละลายและสร้างความเสี่ยงเชิงระบบต่อเศรษฐกิจ แต่การล้มละลายของเอเวอร์แกรนด์เพียงรายเดียวนั้น อาจจะไม่ทำรัฐบาลเข้ามาดำเนินการใดๆ"
ราคาหุ้น"เอเวอร์แกรนด์" ร่วงลงอย่างหนักในช่วงหลายวันที่ผ่านมา หลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายกำกับดูแลของจีนเตือนว่า หนี้สินของเอเวอร์แกรนด์จำนวน 3.05 แสนล้านดอลลาร์นั้น อาจสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างในระบบการเงินของจีน หากไม่มีการจัดการกับหนี้สินของเอเวอร์แกรนด์อย่างเหมาะสม
ก่อนหน้านี้ S&P ได้ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของ"เอเวอร์แกรนด์" ลงสู่ระดับ CC จากระดับ CCC โดยให้แนวโน้มการจัดอันดับความน่าเชื่อถือเป็นลบ เนื่องจากสภาพคล่องของเอเวอร์แกรนด์ลดน้อยลง และบริษัทมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งรวมถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับโครงสร้างหนี้
ทั้งนี้ในวันที่ 23 ก.ย.64 เอเวอร์แกรนด์มีกำหนดชำระดอกเบี้ย 83.5 ล้านดอลลาร์ของหุ้นกู้ที่มีกำหนดครบอายุเดือนมี.ค. 2565 และในวันที่ 29 ก.ย.นี้ บริษัทมีกำหนดชำระดอกเบี้ย 47.5 ล้านดอลลาร์ของหุ้นกู้ที่ครบอายุเดือนมี.ค. 2567
หากเอเวอร์แกรนด์ไม่สามารถชำระดอกเบี้ยเมื่อถึงวันกำหนดชำระดังกล่าว ทางบริษัทจะมีเวลาอีก 30 วันในการชำระดอกเบี้ย มิฉะนั้นจะถือว่าบริษัทผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ ซึ่งหากเอเวอร์แกรนด์ตกอยู่ในสภาพผิดนัดชำระหนี้ ทางบริษัทจะต้องทำการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งคาดว่านักลงทุนที่เข้าซื้อหุ้นกู้ของเอเวอร์แกรนด์จะได้รับส่วนแบ่งการชำระคืนในสัดส่วนต่ำ