คดีตัวอย่างในสหรัฐ ศาลตัดสินให้บ.เอกชน บังคับพนักงานฉีดวัคซีนโควิดได้  

25 ก.ย. 2564 | 09:38 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ก.ย. 2564 | 18:38 น.

ผู้พิพากษาระบุว่า พนักงานไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเสรีภาพส่วนบุคคลของพวกเขากำลังถูกละเมิด และหากเสรีภาพส่วนบุคคลของเขาหรือเธอมีความสำคัญมาก ก็ควรเลือกที่จะใช้เสรีภาพนั้นในทางอื่นซึ่งมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน นั่นคือ สิทธิ์ในการหางานอื่นทำ

เดวิด บันนิง ผู้พิพากษาศาลแขวงของสหรัฐในโควิงตัน รัฐเคนตักกีได้ตัดสินในวันศุกร์ (24 ก.ย.) ให้โรงพยาบาลเซนต์ เอลิซาเบธ เฮลธ์แคร์ (St. Elizabeth Healthcare) ในซินซินนาติ รัฐโอไฮโอ สามารถกำหนดให้พนักงานของโรงพยาบาลเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มิฉะนั้นอาจจะถูกเลิกจ้าง ซึ่งนับเป็นการตัดสินคดีของบริษัทเอกชนในกรณีนี้เป็นครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา

 

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผู้พิพากษาบันนิงระบุว่า พนักงานของเซนต์ เอลิซาเบธ เฮลธ์แคร์ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า “เสรีภาพส่วนบุคคล” ของพวกเขากำลังถูกละเมิดโดยข้อกำหนดของทางโรงพยาบาลที่สั่งให้พนักงาน ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดยทางโรงพยาบาลมีสิทธิ์ที่จะกำหนดเป็นเงื่อนไขของการจ้างงาน

คดีตัวอย่างในสหรัฐ ศาลตัดสินให้บ.เอกชน บังคับพนักงานฉีดวัคซีนโควิดได้   

ทั้งนี้ พนักงานของเซนต์ เอลิซาเบธ เฮลธ์แคร์จะต้องฉีดวัคซีนป้องกันโควิดภายในวันที่ 1 ต.ค.นี้ โดยปริมาณวัคซีนที่มีอยู่อย่างแพร่หลายในสหรัฐได้ช่วยลดการติดเชื้อโควิด-19 ในฤดูใบไม้ผลิและต้นฤดูร้อน แต่การแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลตาทำให้ยอดผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาลรายใหม่พุ่งขึ้น

 

อลัน สแตทแมน ซึ่งเป็นตัวแทนของพนักงานของเซนต์ เอลิซาเบธ เฮลธ์แคร์ระบุว่า พวกเขาจะทำการประเมินการดำเนินการในขั้นตอนต่อไป

 

มาร์ค กิลฟอยล์ ทนายความของเซนต์ เอลิซาเบธระบุว่า การตัดสินของผู้พิพากษาบันนิงนั้นนับเป็นคดีแรกที่เกี่ยวข้องกับการบังคับฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทเอกชน

คดีตัวอย่างในสหรัฐ ศาลตัดสินให้บ.เอกชน บังคับพนักงานฉีดวัคซีนโควิดได้   

สำหรับการฟ้องร้องของพนักงานเซนต์ เอลิซาเบธนั้นบางส่วนเกิดจากความวิตกเกี่ยวกับความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งผู้พิพากษาบันนิงกล่าวว่า ความวิตกเหล่านั้นไม่สามารถหักล้างข้อกำหนดตามกฎหมายได้

 

“หากพนักงานเชื่อว่าเสรีภาพส่วนบุคคลของเขาหรือเธอมีความสำคัญมากไปกว่าเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดสำหรับการจ้างงาน พนักงานผู้นั้นก็สามารถและควรเลือกที่จะใช้เสรีภาพส่วนบุคคลในทางอื่นซึ่งมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่านั้น นั่นก็คือ สิทธิ์ในการหางานอื่นทำ” ผู้พิพากษาบันนิงกล่าว

 

ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทขนาดใหญ่จำนวนมากได้เริ่มที่จะกำหนดเส้นตายสำหรับพนักงานในการเข้ารับการฉีดวัคซีน เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังคงเพิ่มขึ้นในสหรัฐ

 

ด้านฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนก็ได้เปิดเผยถึงแผนการที่จะกำหนดให้ลูกจ้างของรัฐเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ด้วย ซึ่งคิดเป็นจำนวนชาวอเมริกันหลายสิบล้านคน

 

ทั้งนี้ ข้อกำหนดของนายจ้างที่บังคับให้ลูกจ้างต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 นั้นทำให้เกิดคดีฟ้องร้องจำนวนมาก แม้ว่าส่วนใหญ่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น โดยในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ผู้พิพากษารายหนึ่งของรัฐบาลกลางสหรัฐได้ยกฟ้องคดีของโรงพยาบาลฮิวส์ตัน เมโธดิสท์ ( Houston Methodist) ภายใต้กฎหมายการเลิกจ้างโดยมิชอบของรัฐเท็กซัส