เปิดประเทศมีผล ต่างชาติแห่ค้นข้อมูลท่องเที่ยว-จองโรงแรมสหรัฐพุ่ง

เว็บไซต์การท่องเที่ยว Kayak ในเครือของบริษัทบุ๊กกิ้ง โฮลดิ้งส์ เปิดเผยข้อมูลวานนี้ (18 ต.ค.) ระบุว่า การค้นหาเกี่ยวกับการเดินทางจากต่างประเทศมายังสหรัฐอเมริกาพุ่งขึ้น 48% ในวันเสาร์ที่ผ่านมา (16 ต.ค.) เมื่อเทียบเป็นรายสัปดาห์

ความเคลื่อนไหวในเชิงบวกดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ทำเนียบขาวได้ประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (15 ต.ค.) ว่าจะยกเลิกมาตรการจำกัดการเดินทางสำหรับป้องกันโควิด-19 ให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย.นี้เป็นต้นไป (อ่านเพิ่มเติม: สหรัฐ “เปิดประเทศ” 8 พ.ย. รับต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว)

ด้านบริษัทเอ็กซ์พีเดียก็เปิดเผยข้อมูลที่สอดคล้องกันกับเว็บ Kayak โดยระบุว่า มีนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษเพิ่มขึ้น 28% และนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น 24% ที่ค้นหาโรงแรมในสหรัฐ เมื่อเทียบช่วง 8-10 ต.ค. กับช่วง 15-17 ต.ค.2564

นายเอ็ด บาสเตียน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสายการบินเดลต้า แอร์ไลน์ ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ทางสายการบินเดลต้ามองเห็นแนวโน้มการท่องเที่ยวที่ดีขึ้นในระดับนานาชาติ โดยมีตัวกระตุ้นเป็นการตัดสินใจยกเลิกมาตรการจำกัดการเดินทางที่รัฐบาลสหรัฐประกาศเมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา

"เพราะการเปลี่ยนนโยบายครั้งสำคัญนี้เอง ที่ทำให้หลายครอบครัวจะได้กลับมาเจอกันอีกในช่วงเทศกาลวันหยุดเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี" นายบาสเตียนกล่าว

สำหรับเงื่อนไขการเดินทางเข้าประเทศสหรัฐทั้งทางอากาศและทางบกตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย.เป็นต้นไปนั้น แถลงการณ์ของทำเนียบขาวระบุว่า ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศเข้าสู่สหรัฐ ที่ได้รับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 มาครบโดสแล้ว และมีผลตรวจหาเชื้อเป็นลบภายในระยะ 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง จะสามารถเดินทางเข้าสู่สหรัฐได้ ไม่ต้องกักตัวอีก ส่วนชาวต่างชาติที่ยังไม่ได้รับวัคซีนจะยังคงถูกห้ามเข้าสหรัฐ ขณะที่ชาวอเมริกันเองที่ประสงค์เดินทางกลับเข้าประเทศ หากยังไม่ได้รับวัคซีน ก็จะต้องแสดงหลักฐานว่าตรวจหาเชื้อโควิดแล้วและผลตรวจเป็นลบ (ไม่พบการติดเชื้อ)