ฮันส์ คลูจ (Hans Kluge) ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) ประจำภาคพื้นยุโรป แถลงเตือนว่า ทวีปยุโรปอาจกลายมาเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโควิดอีกครั้ง หลังสถานการณ์แพร่ระบาดทวีความรุนแรงและมีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงในหลายประเทศ ซึ่งเป็นไปได้ว่าภายในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิดในทวีปยุโรปอาจเพิ่มขึ้นอีกกว่า 500,000 คน
สาเหตุที่ทำให้การแพร่ระบาดของโควิดในยุโรปกลับมาทวีความรุนแรงเป็นผลจากการฉีดวัคซีนที่ไม่เพียงพอ โดยอัตราการฉีดวัคซีนของประเทศต่างๆ ทั่วภูมิภาคนั้นชะลอลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังเป็นผลจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมและป้องกันการติดเชื้อ
“เราต้องเปลี่ยนกลยุทธ์จากการตอบสนองต่อการระบาดที่เพิ่มขึ้นของโควิด เป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดขึ้นตั้งแต่แรก” เขากล่าว
มาเรีย ฟาน เคิร์กโฮฟ หัวหน้าฝ่ายเทคนิคด้านโควิดของ WHO ระบุว่า แม้หลายประเทศยุโรปจะมีวัคซีนและเครื่องมือป้องกันการระบาดที่เพียงพอ แต่กรณีการติดเชื้อโควิดทั่วยุโรปยังคงเพิ่มขึ้นเกิน 55% ในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับประเทศยุโรปที่เผชิญสถานการณ์ระบาดที่รุนแรงขึ้นอย่างชัดเจนคือเยอรมนี ซึ่งแม้จะมีอัตราฉีดวัคซีนให้ประชาชนแล้วกว่า 68% แต่ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ยังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์เกือบ 34,000 คน ส่งผลให้หน่วยงานสาธารณสุขหวั่นวิตกว่า การระบาดระลอกใหม่นี้ซึ่งเป็นระลอกที่ 4 อาจทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีกจำนวนมาก และส่งผลกระทบต่อการรองรับผู้ป่วยในระบบสาธารณสุข โดยในรอบวันที่ผ่านมามีรายงานผู้เสียชีวิตจากโควิดเพิ่มขึ้น 165 คน
ขณะที่สหราชอาณาจักร ซึ่งมีอัตราฉีดวัคซีนให้ประชาชนครบโดสสูงกว่า 68% ยังคงพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นราว 37,000-41,000 คนต่อวันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และพบผู้เสียชีวิตเฉลี่ยประมาณ 200 คนต่อวัน
ส่วนประเทศในยุโรปตะวันออกอย่าง รัสเซีย มีกรณีการเสียชีวิตจากโควิดเพิ่มขึ้นสูงสุด ซึ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นวันละกว่า 1,000 คน และพบผู้ติดเชื้อรายวันเฉลี่ยกว่า 40,000 คน ตามด้วยยูเครนที่พบผู้เสียชีวิตจากโควิดวันละประมาณ 600-700 คน โดยทั้ง 2 ประเทศนั้นมีอัตราการฉีดวัคซีนที่ค่อนข้างต่ำ
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายประเทศยุโรปที่พบผู้ติดเชื้อหรือผู้เสียชีวิตจากโควิดเพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์ โดยโรมาเนียพบผู้เสียชีวิตจากโควิด 591 คนในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดเท่าที่เคยมีการบันทึก
ด้านฮังการีพบผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นกว่า 6,200 คน มากกว่าสัปดาห์ที่แล้วกว่าเท่าตัว ขณะที่โครเอเชียพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เมื่อวานนี้ (4 พฤศจิกายน) กว่า 6,300 คน ซึ่งสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการระบาด
อิตาลีที่มีประชากรได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้วกว่า 72% ยังมีรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมากว่า 16.6% ส่วนสเปนเป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่สถานการณ์ระบาดของโควิดไม่รุนแรงขึ้น โดยพบผู้ติดเชื้อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเฉลี่ยประมาณ 2,000-3,000 คนต่อวัน ซึ่งสเปนนั้นมีอัตราฉีดวัคซีนให้ประชาชนสูงกว่า 80%
ที่มา : สำนักข่าวบีบีซี