WHO เตือนโอไมครอนระบาดหนักลาม 23 ประเทศ สหรัฐพบรายแรกแล้ว

01 ธ.ค. 2564 | 23:31 น.
อัปเดตล่าสุด :02 ธ.ค. 2564 | 08:51 น.

องค์การอนามัยโลก (WHO )เตือนไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนแพร่ระบาดไปแล้ว 23 ประเทศทั่วโลก ล่าสุด CDC ยันสหรัฐฯ พบผู้ติดเชื้อรายแรกแล้ว

นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า ขณะนี้เชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนได้แพร่ระบาดไปใน 23 ประเทศทั่วโลก และ WHO คาดการณ์ว่าจำนวนดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นอีก

ผู้อำนวยการใหญ่ WHO กล่าวว่า ผู้เชี่ยวชาญกำลังทำการศึกษาเกี่ยวกับความสามารถในการแพร่กระจายของไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน รวมทั้งอาการรุนแรงของโรคที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ บริษัทต่างๆกำลังทดลองวัคซีนและยาที่จะรับมือไวรัสดังกล่าว

อย่างไรก็ดี นายแพทย์ทีโดรสระบุว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตายังคงครองสัดส่วนมากที่สุดในจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลก และการใช้มาตรการในการสกัดไวรัสสายพันธุ์เดลตาก็จะช่วยสกัดสายพันธุ์โอไมครอนได้เช่นกัน

 

สหรัฐพบผู้ติดเชื้อโอไมครอนรายแรกแล้ว

 

ด้านศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐยืนยันว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนรายแรกในสหรัฐเมื่อวานนี้ (1 ธ.ค.) โดยผู้ติดเชื้อรายนี้เดินทางกลับจากแอฟริกาใต้ และได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว แต่ไม่ได้ฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์

 

เจ้าหน้าที่ CDC เปิดเผยว่า ชาวอเมริกันที่ติดเชื้อไวรัสโอไมครอนรายแรกนี้ได้เดินทางไปยังแอฟริกาใต้ และเดินทางกลับสู่สหรัฐเมื่อวันที่ 22 พ.ย. และมีผลตรวจเชื้อเป็นบวกใน 7 วันหลังจากนั้น

ด้านนายแพทย์แอนโทนี เฟาชี แพทย์ใหญ่ประจำคณะทำงานด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อรายนี้ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว แต่ไม่ได้ฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ และขณะนี้ผู้ติดเชื้อได้เข้ารับการกักตัว อย่างไรก็ดี ผู้ที่มีประวัติใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อรายนี้ทุกคนมีผลตรวจเชื้อเป็นลบ

 

นายแพทย์เฟาชียังกล่าวด้วยว่า อาจจะต้องใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์หรือมากกว่านั้น จึงจะทราบว่าไวรัสโอไมครอนสามารถแพร่ระบาดจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งได้ง่ายเพียงใด, ไวรัสจะก่อให้เกิดโรคที่รุนแรงมากเพียงใด และไวรัสสามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันจากวัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันได้หรือไม่