สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ และนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้โทรศัพท์หารือเมื่อวานนี้ แต่ไม่มีความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับยูเครน
เจ้าหน้าที่รายนี้กล่าวหลังผู้นำทั้งสองประเทศโทรหากันว่า "สถานการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในระดับรากฐาน"
รายงานข่าวระบุว่า ทั้งสองได้คุยกันเป็นเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง โดยประธานาธิบดีไบเดนได้เตือนผู้นำรัสเซียว่า สหรัฐและชาติพันธมิตรจะคว่ำบาตรรัสเซียอย่างรุนแรง หากรัสเซียใช้กำลังทางทหารต่อไป
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังนายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐเตือนเมื่อวันศุกร์ (11 ก.พ.) ว่า รัสเซียอาจจะเริ่มบุกยูเครนวันใดวันหนึ่งในช่วงนี้ แม้กระทั่งก่อนที่กีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่จีนเป็นเจ้าภาพจะปิดฉากลงในวันที่ 20 ก.พ.นี้
ความเห็นดังกล่าวของนายซัลลิแวน เป็นการเตือนล่าสุดจากรัฐบาลสหรัฐเกี่ยวกับการรุกรานของรัสเซียต่อยูเครน ขณะที่เชื่อว่ารัสเซียได้สั่งสมกำลังทหารมากกว่า 100,000 นายใกล้พรมแดนที่ติดกับยูเครน
"รัสเซียมีกองกำลังทั้งหมดที่จำเป็นต่อการปฏิบัติการทางทหารครั้งใหญ่" นายซัลลิแวน กล่าว
ทั้งนี้สถานการณ์ในยูเครนมีความตึงเครียดมากขึ้น เมื่อหลายประเทศประกาศเตือนให้ประชาชนเดินทางออกจากยูเครนโดยด่วน โดยนอกจากสหรัฐฯ อังกฤษ เยอรมนี อิสราเอล ก็มีออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ที่ขอให้ประชาชนรีบออกเดินทางยูเครนทันที ท่ามกลางคำเตือนของสหรัฐฯ ว่ารัสเซียอาจจะใช้กำลังทหารบุกยูเครนเมื่อไรก็ได้